ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 27-03-2010, 10:39
พระเมตตา's Avatar
พระเมตตา พระเมตตา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 12
ได้ให้อนุโมทนา: 4,170
ได้รับอนุโมทนา 5,467 ครั้ง ใน 62 โพสต์
พระเมตตา is on a distinguished road
Default

สำหรับการปฏิบัติที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ โบราณาจารย์ท่านกำหนดไว้ว่ามี ๔ แนวทางด้วยกัน แนวทางที่ ๑ เรียกว่า สุกขวิปัสสโก ไม่ทราบเหมือนกันว่า ใส่บาลีมาก ๆ พวกเราจะมีความเข้าใจเท่าไร ? เพราะเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องของพระโดยตรง ถ้าใครไม่เข้าใจสามารถยกมือประท้วงได้ เดี๋ยวจะแปลไทยให้ฟัง

สายแรกเรียกว่า สุกขวิปัสสโก เป็นการปฏิบัติแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่ใช่คนขี้สงสัย ใครว่าอะไรเชื่อตาม ถ้าอย่างนี้ปฏิบัติตามสายนี้แล้ว ก็บรรลุมรรคผลไปตามลำดับขั้นของตน โดยที่ความสามารถพิเศษด้านอื่นไม่มี

สายที่สองท่านเรียกว่า เตวิชโช หรือ วิชชา ๓ ปฏิบัติเพื่อเข้าถึงมรรคผล โดยประกอบด้วยความรู้พิเศษหลายอย่างด้วยกัน

อย่างแรกเรียกว่า จุตูปปาตญาณ เมื่อทำถึงแล้วสามารถรู้ได้ว่าคนและสัตว์ ก่อนจะเกิดเขามาจากไหน ? และถ้าตายแล้วไปไหน ?

อย่างที่สองเรียกว่า ปุพเพนิวาสานุสติญาณ สามารถระลึกชาติได้ว่า ในอดีตชาติของเราแต่ละชาติที่ผ่านมา เราเกิดเป็นอะไร ? มีความเป็นอยู่อย่างไร ? เทือกเถาเหล่ากอเป็นอย่างไร ? สามารถบอกได้ แต่ว่าบอกได้มากน้อยไม่เท่ากัน เป็นไปตามวาสนาบารมีที่สั่งสมมา

อย่างที่สามเรียกว่า อาสวักขยญาณ แปลว่าความรู้ที่ทำให้กิเลสหมดไปได้ สำคัญที่สุดตัวสุดท้ายนี้ ดังนั้นสายที่สองที่เรียกว่า วิชชาสามนั้น สำคัญที่สุดตรงตัวสุดท้าย คือทำกิเลสให้หมดไปได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2010 เมื่อ 15:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 311 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พระเมตตา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา