หลวงปู่เอี่ยมนอกจากทำตะกรุดและผ้ายันต์ถวายในหลวง ร.๕ แล้ว ยังมอบคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าให้ไป จึงทำให้พระองค์ท่านสามารถฝ่าฟันคลื่นลมแล้วก็วังน้ำวนไปได้ เมื่อทางโน้นเอาม้าพยศมาลอง พระองค์ท่านก็เสกหญ้าด้วยพระคาถานี้ พอส่งให้ม้ากิน ก็สามารถขึ้นขี่ได้ โดยที่ม้าไม่ได้พยศอะไร
ตรงจุดนี้พวกท่านทั้งหลายต้องเข้าใจนะครับว่า เรื่องของคาถา ต้องประกอบด้วยความเชื่อมั่นอย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดตรงจุดนี้ ขาดศรัทธา ผลจะมีน้อยมาก
แต่พอมาถึงรุ่นของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง พระท่านให้ใช้ไปในทางทิพจักขุญาณ ก็คือถ้าหากว่าภาวนา
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ
อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ
ซึ่งชักสูตรออกมาเป็นยันต์ดวง สลับกันไปสลับกันมา จากกึ่งกลางออกมารอบนอก จากรอบนอกย้อนเข้ากึ่งกลาง จากกึ่งกลางออกมารอบนอก รอบนอกย้อนเข้ากึ่งกลาง รวมแล้ว ๔ รอบด้วยกัน
"พระ" ท่านให้หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านใช้ในทางทิพจักขุญาณ เพราะว่าสายตาของท่านตอนนั้นแย่มากแล้ว ถ้าหากว่าท่านเคยเห็นหลวงพ่อท่านอ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากแว่นตาแล้ว ท่านยังมีแว่นขยายกว้างเกือบฟุตหนึ่ง วางทาบบนหนังสือพิมพ์อีกชั้น แต่พอไม่มีเวลาขึ้นมา เวลาใกล้เพลท่านออกมาช้า พอผมส่งหนังสือพิมพ์ให้ ท่านก็หยิบแล้วโยน..หยิบแล้วโยน...หยิบแล้วโยน แล้วก็คุยถึงเนื้อหาในหนังสือพิมพ์..!!??
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2021 เมื่อ 02:52
|