ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 24-08-2021, 22:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,677 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่เล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง ก็เผื่อว่าถ้าพวกเราเจอเข้าจะได้รู้ว่าเป็นเรื่องปกติ คำว่าเป็นเรื่องปกติ ก็คือ เวลาเหนื่อยมาก ๆ เราบังคับร่างกายได้ยากมาก เห็นชัด ๆ เลยว่าเป็นอนัตตา

ศัพท์คำว่า อนัตตา อะ คือ ไม่ อนะคือ ไม่มี อัตตา คือ ตัวตน ไม่ว่าจะเป็น อะ หรือ อนะ ก็ตาม เมื่อระบุชัดว่า "ไม่" ขึ้นมา นอกจากแปลว่าไม่ใช่ตัวตน หรือที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านแปลง่าย ๆ ว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราแล้ว ยังสามารถที่จะแปลเป็นใจความว่า บังคับบัญชาไม่ได้ ถึงเวลาเป็นไปตามสภาพของตนเอง

แต่ด้วยความที่อาตมภาพเป็นคนดื้อ โดยเฉพาะดื้อกับกิเลส ไม่ค่อยทำตามกิเลส ดื้อกับร่างกาย ไม่ค่อยจะฟังร่างกาย แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นแบบนี้ ก็คือ "ถ้างานยังไม่จบ เอ็งก็จงทำไปจนกว่างานจะจบ..!"

อย่างเช่นอีกสักครู่ ยังต้องออกไปงานศพท่านอาจารย์ลี ปญฺญาวชิโร อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยสมจิตร แต่ถ้าหลังงานนั้นแล้วก็จะรู้ว่าสภาพของตัวเองเป็นอย่างไร เพราะว่าพอกำลังใจคลายออก ส่วนมากก็หงายผลึ่ง..หมดสภาพไปเลย..! ดังนั้น..ใครก็ตามที่บอกว่านอนไม่หลับ กระผม/อาตมภาพกลับอยู่ในอาการนอนไม่ค่อยอยากจะตื่น รู้สึกว่าเพิ่งจะนอนได้เดี๋ยวเดียว ร่างกายยังไม่ทันจะฟื้นเลย..หมดเวลาอีกแล้ว

ตรงจุดนี้ที่เล่าให้ฟัง ไม่ได้มาคร่ำครวญขอความเห็นใจจากใคร แต่ให้รู้ไว้ว่า ลักษณะของการทำหน้าที่ของตนในวันนี้ให้ดีที่สุดเป็นอย่างไร ในเมื่อเราทำหน้าที่ของเราได้ดีที่สุดแล้ว ทำเต็มที่แล้ว ต่อให้สำเร็จหรือว่าไม่สำเร็จ ถือว่าเราตอบตัวเองได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2021 เมื่อ 13:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา