ขณะเดียวกัน ก็อย่าไปตั้งความหวังว่าเราตอบไปแล้วจะได้รางวัล ถึงได้บอกกับคณะกรรมการไปว่า ต่อให้ได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล เราก็ยังคงทำงานนี้ต่อไป เพราะว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำ เราทำเพื่อชุมชนของเรา ถ้าหากว่าได้รางวัล ถือว่าเป็นกำลังใจ ถ้าหากว่าไม่ได้รางวัล แปลว่าเรายังไม่ดีพอ เราจะปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปกว่านี้
เรื่องของการตอบคำถามต้องบอกว่า "โม้เอาอย่างไรก็ได้" ไม่เหมือนกับการที่เราแนะนำสถานที่จริง เพราะว่ากรรมการเขามองเห็นสถานที่จริงว่าเป็นไปอย่างที่เราพูดหรือเปล่า
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตรงจุดนี้ก็คือ ต้องประกอบไปด้วย ประสบการณ์ในการทำหน้าที่ มีสมาธิที่มั่นคงทรงตัว สามารถลำดับงานได้ ว่าอะไรก่อนอะไรหลัง แต่ละอย่างสัมพันธ์กันอย่างไร และท้ายที่สุด ต้องสรุปจบให้เป็น โดยเฉพาะอย่าเกินเวลาเป็นอันขาด ต้องเหลือเวลาให้คณะกรรมการได้ซักถามข้อสงสัยได้ด้วย
วันนี้ ญาติโยมที่ฟังอยู่ทางบ้าน อาจจะได้ประโยชน์น้อย แต่ว่าหลังงานทุกครั้ง กระผม/อาตมภาพจะสรุปงานลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นประสบการณ์แก่พระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่ทำงานให้กับวัด จะได้รู้ว่างานนี้มีข้อบกพร่องอย่างไร ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นในครั้งหน้า และขณะเดียวกัน การแก้ไขงานนั้น เราแก้ไขกันอย่างไร จะได้มีประสบการณ์ ไม่ถึงกับมือไม้ปั่นป่วนเวลาเราไปเจอปัญหาเฉพาะหน้าแบบนี้อีก
จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยม ทั้งที่นี่และที่บ้าน ได้ทราบแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2021 เมื่อ 02:31
|