พระอาจารย์กล่าวว่า “พูดภาษาอังกฤษอย่าไปห่วงไวยากรณ์ เอาแค่รู้เรื่อง ถ้าไม่รู้เรื่องก็ตีใบ้เพิ่มเข้าไป..! หน้าด้านพูดบ่อย ๆ เดี๋ยวก็เก่งไปเอง ถ้ามัวแต่ห่วงไวยากรณ์อยู่ ชาตินี้เราจะพูดไม่ได้หรอก เพราะว่าส่วนใหญ่โดยสัญชาตญาณของเราก็คือ ฟังแล้วแปลเป็นไทย แปลแล้วเราจะตอบอย่างไร คิดเป็นภาษาไทย แล้วค่อยกลับประโยคเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าอย่างนั้นไม่ทันรับประทานหรอก ประโยคที่ ๒๐ ของเขามาแล้ว ประโยคแรกของเรายังคิดไม่เสร็จเลย
วัดท่าขนุนได้เปรียบที่ฝรั่งเข้ามาเยอะ วันก่อนน้องเล็กลดราคาหลวงพ่อนากของอาตมาเหลือแค่คอปเปอร์..! อาตมาบอกว่า "บ้า..คอปเปอร์ได้อย่างไร ? ต้องพิงค์โกลด์ต่างหาก..!" ...(หัวเราะ)... เล่นเอา ๓๗.๕ กิโลกรัมของตูออก เหลือแต่คอปเปอร์เลย แต่ก็ยังดีที่ฝรั่งเขาพยักหน้าหงึก ๆ ว่า "I see." มึง see จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้..!?
คงจะเห็นว่ามีโกลเด้น มีซิลเวอร์ ก็เลยต้องมีคอปเปอร์ใช่ไหม ? ไอ้นั่นหุ่นอภินิหาร..! สมัยอาตมายังแก้ผ้าวิ่งอยู่เลย หนังหุ่นยนต์ญี่ปุ่นเรื่องแรก ๆ ที่เข้ามาประเทศไทย มีหุ่นอยู่ ๓ ตัว ตัวพ่อชื่อโกลด้า ตัวแม่ชื่อซิลเวอร์ ส่วนลูกชายชื่อคอปเปอร์ เล่นเอาพิงค์โกลด์ของอาตมากลายเป็นคอปเปอร์ หมดราคาเลย ๔๓ ล้านกว่าลงมาเหลือแค่ร้อยเดียว..!
แต่ว่าไม่เป็นไร เราต้องกล้า รู้ไม่รู้ให้พูดไว้ก่อน แบบเดียวกับสะพานแขวนหลวงปู่สาย ว่ากันตามศัพท์คือ Suspension bridge ไม่ต้องหรอก ใช้ Hanging bridge หมดเรื่องเลย สะพานแขวน..เขาเห็นเขาก็รู้เองแหละ ไม่ต้องไปเล่นศัพท์เป็นทางการมากเกิน พวกศัพท์เทคนิคทางการ อาตมาไม่ค่อยรู้หรอก”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:53
|