ดูแบบคำตอบเดียว
  #17  
เก่า 15-08-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,603
ได้ให้อนุโมทนา: 151,769
ได้รับอนุโมทนา 4,412,190 ครั้ง ใน 34,193 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะมีปัญญาได้ศีลต้องทรงตัว
พอศีลทรงตัว การที่เราระมัดระวังศีลอยู่ตลอดเวลา ทำให้สมาธิเกิดโดยอัตโนมัติ
พอสมาธิเกิด สภาพจิตนิ่งสงบ ปัญญาก็จะเกิด

เพราะฉะนั้น..ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนกับการที่เราไขเกลียวน็อต ไขไปเรื่อยเดี๋ยวก็สุดเอง พอถึงเวลาปัญญาเกิดก็จะไปควบคุมศีลให้บริสุทธิ์ ศีลยิ่งบริสุทธิ์สมาธิยิ่งทรงตัว สมาธิยิ่งทรงตัวปัญญายิ่งเกิด คราวนี้จะรู้แล้วว่าต้องกะล่อนอย่างไร เป็นการกะล่อนแบบไม่ผิดศีลนะ..!

อาตมภาพสมัยเรียนทหารอยู่กองโรงเรียน ไม่เคยโกหกผู้บังคับบัญชาเลย ถึงเวลาฝึกกันแทบรากเลือด แต่ถ้าเขาถามว่า "หิวไหม ?" ต้องตะโกนตอบว่า "ไม่หิว" ซึ่งโกหกชัด ๆ..!

ก็ใช้วิธีพอถึงเวลาเขาถามว่า "หิวไหม ?" อาตมาก็รอเพื่อนทั้งกองตอบขึ้นว่า "ไม่" แล้วเราค่อยตะโกนแค่คำว่า "หิว" คำเดียว แต่เสียงตะโกนพร้อมกับเขานี่ ถามว่า "เหนื่อยไหม ?" คอยเพื่อนทั้งกองตะโกนตอบว่า "ไม่" แล้วเราก็ตะโกนแค่คำว่า "เหนื่อย" พร้อมกับคนอื่น ไม่เคยโกหกเลย..!

ก็บอกแล้วว่าอยู่กับโลกนั้นอยู่ได้ แค่อยู่ให้เป็น ไม่ผิดศีลหรอกถ้าอยู่เป็น ปัญญาต้องมี ปัญญาไม่พออยู่ไม่ได้ หรืออยู่ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2023 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา