เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าถึงเวลาแล้วท่านทั้งหลายควรที่จะปลีกตัว หาเวลาไปร่วมปฏิบัติธรรมกับคนอื่น ในสถานที่ซึ่งเปิดให้ปฏิบัติธรรมในระยะนี้ ซึ่งมีการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ มีการคัดกรองในระดับหนึ่ง กำลังใจของบุคคลที่มุ่งดีด้วยกัน ก็จะประคับประคองกัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของปุคคลสัปปายะ ช่วยให้กำลังใจของเราทรงตัวได้ง่าย ทรงตัวได้แนบแน่นขึ้น
จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับขี้โกง แต่ก็ไม่ใช่ เพราะถือว่าเป็นปัญญาอย่างหนึ่ง ในเมื่อรู้ว่ามีวิธีการที่ง่าย ช่วยให้ใจของเราสงบ ช่วยให้สมาธิของเราตั้งมั่นได้ง่าย ก็ควรที่จะใช้วิธีการนั้น ๆ ยกเว้นว่าท่านทั้งหลายสามารถทรงฌานได้ทุกเวลาที่ต้องการ ถ้าอย่างนั้นในเรื่องของสถานที่หรือบุคคล ก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องน้อย เพราะว่าสามารถที่จะทรงฌานทรงสมาบัติได้ทุกเวลา ได้ทุกสถานที่ตามที่กำลังใจของท่านต้องการ
ดังนั้น...ในการปฏิบัติระยะแรก หรือท่านทั้งหลายที่ทิ้งการปฏิบัติมานาน ปล่อยให้กำลังใจของตนเองฟุ้งซ่าน จนต้องเหมือนกับคนที่ว่ายทวนน้ำ เผชิญกับคลื่นลมแรงอีกต่างหาก จึงจำเป็นต้องหาสถานที่และบุคคลที่เหมาะสม มาช่วยผ่อนแรงของเรา จนกว่าจะสามารถกลับไปสู่สภาวะเดิม ก็คือสมาธิที่เคยทรงตัวได้ แล้วก็ทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-04-2021 เมื่อ 07:45
|