ดูแบบคำตอบเดียว
  #57  
เก่า 24-03-2010, 20:07
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,001
ได้รับอนุโมทนา 133,088 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink ลูกถีบหลวงพ่อชา : อย่าฝากหัวใจไว้กับคนอื่น

เรื่องนี้เพิ่งมีเพื่อนส่งมาให้ไม่กี่วันนี้
พิจารณาจากคนส่งแล้ว เข้าใจว่าเรื่องนี้กำลังส่งต่อกันแพร่หลายอยู่
ปกติจะไม่นำมาลง แต่อ่านแล้วชอบใจว่า
คำสั่งสอนนี้ พวกเรารับมาจากครูบาอาจารย์ให้วางกำลังใจให้ดี โดยเฉพาะยุคนี้
"ไม่ตำหนิใครเลย (แม้เห็นว่าเขาผิด)"...


ลูกถีบหลวงพ่อชา :
อย่าฝากหัวใจไว้กับคนอื่น
พระอาจารย์ญาณธมฺโม
วัดป่ารัตนวัน อ. วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา


อาตมาอาจจะเป็นพระองค์เดียวในวงลูกศิษย์หลวงพ่อชา "ที่โดนท่านถีบ"
แต่ว่าซาบซึ้งที่ท่านถีบอาตมา และเพราะความซาบซึ้งนั้น จะมาเล่าให้ญาติโยมฟัง

คือตอนนั้นอาตมาบวชใหม่ ๆ พรรษาแรกอยู่ที่วัดหนองป่าพง
ปีนั้นพระเณร ๗๐ กว่ารูป พระเยอะ ญาติโยมเข้าวัดกันมาก
วันนั้นได้ไปบิณฑบาต ตอนกลับจากบิณฑบาตมีพระองค์หนึ่งมาคุยด้วย
และพระองค์นั้นก็เพิ่งบวชใหม่เหมือนกัน ทั้งสององค์ต่างยังมีนิสัยแบบฆราวาส
และพระองค์นั้นก็ได้ไปตำหนิติเตียนพระที่อยู่ในวัดที่ไม่ถูกใจ

อาตมาฟังแล้วคิดในใจว่า บวชเป็นพระทำไมมาจับผิดกัน ทำไมท่านตำหนิพระองค์นั้นองค์นี้
ก็เลยเดินหนีไม่อยากคุยด้วย แต่ไม่ได้เดินหนีอย่างเดียว
เดินหนีตำหนิท่านในใจ ยังคิดเรื่องท่าน


พอดีเดินเข้ามาในวัด เดินก้มหน้าคิดถึงเรื่องพระองค์นี้องค์นั้นอยู่
ได้ยินเสียงหลวงพ่อชา พูดขึ้นมาว่า "กูดมอนิ่ง"
ก็มองขึ้นไปเห็นหลวงพ่อชา ก็อยู่ใกล้ ๆ ท่านยิ้มใส่เรา
พูดภาษาอังกฤษ "กูดมอนิ่ง" แปลว่าสวัสดีตอนเช้า
เราก็ดีใจ ไม่เคยได้ยินหลวงพ่อพูดเป็นภาษาอังกฤษ
ก็เลยยกมือไหว้ท่านและตอบท่านว่า "กูดมอนิ่ง หลวงพ่อ"

หลวงพ่อชาท่านพูดภาษาอังกฤษได้ ๒ คำ "กูดมอนิ่ง" สวัสดีตอนเช้า
กับ "ดู ยู ว้อน อะคัพ ออฟ ที" แปลว่า คุณต้องการน้ำชาไหม
เพราะหลวงพ่อท่านเคยไปประเทศอังกฤษ
ชาวอังกฤษเขากินน้ำชากันทั้งวันทั้งคืนและเขาจะถามตลอดเวลา "ดู ยู ว้อน อะคัพ ออฟ ที"
หลวงพ่อเลยท่องไว้จำไว้ เพราะท่านว่ามันจำง่ายดี
เพราะว่าเหมือนพระสวดให้พร ยถาวริวะหา อุปปะกัปปาติ
แต่ท่านไม่ได้ถามอาตมา "ดู ยู ว้อน อะคัพ ออฟ ที"

เรายกมือไหว้ท่านรู้สึกดีใจอารมณ์เปลี่ยน ฉันเสร็จก็กลับกุฏิ
เดินจงกรมนั่งสมาธิถึงหกโมงเย็น ก็คิดว่าเดี๋ยวจะไปกุฏิหลวงพ่อชา


ถ้าใครเคยไปวัดหนองป่าพง จะเห็นกุฏิเก่าของท่านข้าง ๆ โบสถ์
ซึ่งหลวงพ่อมักจะนั่งบนเก้าอี้หวาย
อาตมาเข้าไปก็กราบท่าน ขอนวดเท้า เพราะเราเคยฝึกนวดเท้า บางครั้งท่านจะให้เราไปนวด
วันนั้นพระเณรเยอะ ประมาณทุ่มหนึ่งเขาตีระฆัง ท่านก็ไล่พระเณรขึ้นโบสถ์หมด
พระเณรประมาณ ๗๐ รูป ท่านบอกว่า ท่านญาณอยู่นี่ ก็นั่งสองต่อสองกับท่าน
ก็จับเท้าท่านไว้ ท่านก็ไม่ได้พูดท่านนั่งหลับตาภาวนา เราก็นวดเท้าท่าน
อากาศเย็นสบายช่วงฤดูหนาว

พระเจ็ดสิบรูปเริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็น เราฟังพระสวดมนต์เจ็ดสิบรูป
เหมือนเทวดา เหมือนเทพกำลังจะโปรดเรา เราก็นั่งคิด
เรากำลังนั่งกับพระอรหันต์ กำลังสร้างบุญกุศล ถวายการนวดแก่พระอรหันต์อยู่
เทวดากำลังสวดอนุโมทนาด้วย จิตใจขึ้นสวรรค์เลย พอดีจิตใจขึ้นสวรรค์
หลวงพ่อใช้เท้าถีบหน้าอกอาตมาจนหงายหลัง หัวกระแทกพื้น เราก็ช็อกอยู่ งงเลย..!!!
หลวงพ่อชี้หน้า นั่นตอนเช้าพระองค์หนึ่งพูดไม่ถูกใจเรา เราก็เสียใจ
อีกองค์หนึ่งพูดแค่ "กูดมอนิ่ง" ดีใจทั้งวัน
อย่าไปดีใจ เสียใจกับคำพูดคนอื่น อย่าไปฝากหัวใจไว้กับคนอื่น
ต้องฝากหัวใจไว้กับพระธรรม


ทีนี้ท่านก็เทศน์กัณฑ์ใหญ่ เราก็ยกมือไหว้ท่าน น้ำตาไหล
เพราะอะไร ซาบซึ้งในเมตตากรุณาของท่าน
ท่านก็คงเห็นเราตอนเช้า ว่าพระองค์นี้ตกนรก จิตเป็นทุกข์ เพราะคำพูดคนอื่น
ท่านก็เลยพูดแค่ "กูดมอนิ่ง" ให้ดึงเราขึ้นจากนรก
และตอนเย็นท่านก็ปล่อยให้เรานวดเท้าท่านให้ขึ้นสวรรค์
ขึ้นสวรรค์แล้ว ต้องถีบลงมาถึงแผ่นดิน
เพราะเทวดาสอนธรรมไม่ได้ ต้องมนุษย์ เพื่อให้จดจำไว้


"อย่าฝากหัวใจไว้กับคำพูดของผู้อื่น เพราะเราจะผิดหวัง
ต้องฝากหัวใจไว้กับพระธรรม
ก็เลยได้จดจำคำพูดหลวงพ่อ...
"

พระอาจารย์ญาณธมฺโม เดิม ชื่อ ฟิลิป จอห์น โรเบิร์ต ชาวออสเตรเลีย
สมัยฆราวาสท่านประกอบวิชาชีพเป็นอาจารย์สอนวิชาชีววิทยา
แต่ได้พบกับพระพุทธศาสนา แล้วเกิดความเลื่อมใส จึงได้ถวายตัวเป็นผ้าขาว
(ธรรมเนียมการอยู่วัดเป็น "อานาคาริก" หมายถึงผู้ไม่ปรารถนาครองเรือนแบบฆราวาสทั่วไป
เพื่อเป็นการทดสอบกำลังใจ ระยะเวลา ๑ ปี หรือตามแต่ละวัดจะกำหนด ก่อนบวชจริง)
ที่วัดป่าพุทธธรรม เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg Yanadhammo_44.jpg (55.5 KB, 17 views)
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 26-03-2010 เมื่อ 12:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา