ดูแบบคำตอบเดียว
  #607  
เก่า 25-08-2020, 13:38
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ศีล สมาธิ ปัญญา

“...สีลปริภาวิโต สมาธิ มหัปผโล โหติ มหานิสังโส สมาธิที่ศีลหล่อเลี้ยงแล้ว ด้วยความระเวียงระวัง หิริโอตตัปปะ รักษาศีลของตนให้บริสุทธิ์แล้ว การบำเพ็ญสมณธรรม คือสมาธิธรรม ย่อมมีความสงบร่มเย็นได้ง่าย นี่เป็นข้อแรก...

สมาธิปริภาวิตา ปัญญา มหัปผลา โหติ มหานิสังสา ปัญญาที่สมาธิเป็นเครื่องหนุนหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ ... เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วเรียกว่า จิตอิ่มอารมณ์ ไม่คิดไม่ปรุง มีแต่อารมณ์อันเดียวแน่น นั่นเรียกว่า เอกัคตารมณ์ เอกัคตาจิต ... เมื่อสมาธิมีความสงบใจ ที่เรียกว่าใจอิ่มอารมณ์ ไม่อยากคิดปรุงแต่งต่าง ๆ ในเรื่องที่เป็นภัยต่อจิตใจ เพราะจิตใจอิ่มตัวด้วยสมาธิธรรม มีความสงบเย็น มีธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง แล้วปัญญาย่อมเดินได้สะดวกคล่องตัว ... ตั้งแต่ขั้นหยาบของปัญญา จนกระทั่งถึงขั้นละเอียดสุด วิมุติหลุดพ้นไปจากปัญญานี้ทั้งนั้น ... ถ้าจิตไม่เป็นสมาธิ จิตยุ่งเหยิงวุ่นวาย จะพาพิจารณาทางด้านปัญญา มันกลายเป็นสัญญาอารมณ์ เป็นฝ่ายสมุทัย เป็นฝ่ายกิเลสตัณหาไปเสียโดยไม่รู้ตัว ..

ปัญญา ปริภาวิตัง จิตตัง สัมมเทว อาสเวหิ วิมุจจติ จิตที่ปัญญาซักฟอกเรียบร้อยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ คือจิตนี้จะหลุดพ้นด้วยปัญญา ปัญญาเป็นเครื่องซักฟอกจิตให้หลุดพ้น ... นี่ธรรม ๓ ประการ...”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2020 เมื่อ 17:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา