ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 08-11-2021, 03:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,632 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ที่มากล่าวเรื่องนี้ ก็เพราะว่าตอนที่ร่วมเสวนาด้วย เห็นว่าเราน่าที่จะปรับปรุงการเรียนบาลีของเรา ให้คนสนใจเรียนมากขึ้นอย่างหนึ่ง แล้วก็ให้สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบพม่าอย่างหนึ่ง ถึงแม้ไม่ใช่เรื่องของคนทั่วไปใช้ได้ อย่างน้อย ๆ ก็ให้มีคนสักกลุ่มหนึ่ง สัก ๑๐๐ คน ๒๐๐ คนก็ได้ ที่สามารถสื่อสารภาษาบาลีในชีวิตปกติ เหมือนกับที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่ ๕ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ พอถึงเวลาก็จะต้องเป็นผู้ที่รับภาระในการเสวนากับชนชาติอื่นด้วยภาษาบาลี

ถ้าหากว่าเราสังเกต สมัยอยุธยานั้น ทางด้านศรีลังกา พระพุทธศาสนาเกือบจะสูญสิ้น เหลือแต่สามเณรรายเดียว คือสามเณรสรณังกร เพราะว่าศรีลังกาโดนฮอลแลนด์ โปรตุเกส อังกฤษ ผลัดกันยึดครองเป็นระยะเวลายาวนานหลายร้อยปี แล้วก็ใช้วิธีกดขี่บังคับ ก็คือถ้าใครไม่นับถือศาสนาคริสต์ ไม่ให้ทำงาน ก็เลยทำให้พระภิกษุสามเณรไม่มีใครให้การอุปถัมภ์ค้ำจุน จึงหมดสิ้นไปเรื่อย

สามเณรสรณังกรบวชสามเณรอยู่ ๔๐ ปี ไม่มีพระครบ ๕ รูปที่จะมาบวชเป็นพระให้ เพราะว่าต่ำสุดของการบวชในปัจจันตประเทศ ต้องเป็นปัญจวรรค คือมีคณะสงฆ์ในการบวชอย่างน้อย ๕ รูป ทางด้านกษัตริย์ลังกา เมื่อได้รับคำร้องทุกข์จากสามเณรสรณังกร ก็มีพระราชสาส์นไปถึงประเทศพม่า ขอคณะสงฆ์เพื่อไปสืบศาสนาที่ประเทศศรีลังกา ปรากฏว่าพม่าตอนนั้นก็ยุ่ง ๆ เพราะว่าโดนอังกฤษยึดอยู่เหมือนกัน ไม่มีใครใส่ใจ จึงขอมาทางกรุงศรีอยุธยา

พระเจ้าทรงธรรมได้ส่งพระอริยมุนีกับพระอุบาลีและคณะไปสืบพระศาสนา บวชกุลบุตรครั้งแรก ๗๐๐ รูปด้วยกัน แล้วสามเณรสรณังกรที่เป็นเณรโค่ง ๔๐ พรรษา..! ปกติสามเณรเขาไม่นับพรรษาให้ ถือว่าอาวุโสที่สุดในพระชุดที่บวชใหม่ พระเจ้าปรากรมพาหุทรงถวายตำแหน่งให้เป็นพระสังฆราชไปเลย ต้องบอกว่าเป็นพระสังฆราชที่พรรษาน้อยที่สุดในโลก..!

พระอริยมุนีกลับมาเปลี่ยนสมณทูตชุดใหม่ไป แต่พระอุบาลีเถระอยู่จนมรณภาพที่นั่น ดังนั้น...การที่ประเทศไทยส่งพระสงฆ์ไปสืบศาสนา ทางด้านลังกาจึงเรียกว่าสยามวงศ์ หรือปัจจุบันนี้เรียกว่าสยาโมปาลีวงศ์ ก็คือสยามอุบาลีวงศ์ แต่คราวนี้แปลงอะของสยามะ กับอุของอุบาลี แปลงอะกับอุเป็นโอ จึงเป็นสยาโมปาลีวงศ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-11-2021 เมื่อ 07:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา