ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 08-11-2021, 02:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,668 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอถึงเวลาจะมีแท่นตั้งอยู่ ค่อนข้างจะสูง บนแท่นนั้นจะมีพระเถระที่จบประโยคสูง ๆ เป็นผู้คอยเปิดตำราทบทวน แล้วก็มีอุบาสก ๒ ราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เรียนจบอย่างน้อยธัมมะจริยะ แล้วสึกหาลาเพศไป คอยเป็นคนดูแลรับใช้ ถ้าพระที่เข้าสอบต้องการจะไปห้องน้ำ สองรายนี้จะคุมไป ก็คือไม่มีโอกาสกระดิกตัวไปแอบอ่านตำราที่ไหนเลย พอถึงเวลาสองรายนี้ก็ประเคนอาหาร ประเคนน้ำ ถ้าหากว่าจะนอนก็นอนตรงนั้นแหละ ดูแล้วพระพม่าท่านกินง่ายอยู่ง่ายดี ถึงเวลาก็ขดตัว จีวรตีโปงหลับตรงนั้น ตื่นขึ้นมาก็ท่องต่อ

เรื่องการสอบผู้ทรงพระไตรปิฎก ผมไปดูอยู่ ๕ ปีติดกัน แต่ละปีมีผู้เข้าสอบ ๓๐ - ๔๐ รูป ตกเรียบทั้ง ๕ ปี..! จนกระทั่งต้องมีการปรับใหม่ ก็คือให้ท่องเก็บได้ทีละปิฎก จะเริ่มจากปิฎกไหนก็ได้ จะเป็นพระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก หรือว่าพระอภิธรรมปิฎก แล้วแต่คุณพอใจ ซึ่งตรงนี้ผมถือว่าด้อยลงมามาก สู้รุ่นก่อนที่ท่องรวดเดียวไม่ได้

มีพระไทยอยู่รูปหนึ่ง ผมไม่ได้สอบถามชื่อฉายา อยู่สำนักมหากันตะยง สำนักเดียวกับท่านอาจารย์เตชะ หรือว่าท่านอาจารย์อังกุระ เก็บพระวินัยปิฎกไปแล้ว ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ที่เหลือก็ต้องพยายามตะเกียกตะกายต่อไป

คำว่า มหากันตะยง นี่ออกเสียงตามแบบพม่า ถ้าเป็นภาษาไทยคือ มหาคันธารมณ์ แบบเดียวกับวัดป๊บปายม อันนั้นก็คือวัดบุปผารมณ์ ดังนั้น...วันนี้ที่ผมฟังบาลีสำเนียงพม่าค่อนข้างจะได้มาก ก็เพราะว่าเคยชินกับที่ท่านอาจารย์ใหญ่ยานิกะคุยภาษาบาลีกับผม แต่ถ้าหากว่าเป็นพระไทยพูดนี่สบายมาก เพราะว่าท่านพูดอะไรมาก็คือสำเนียงบาลีไทยอยู่แล้ว แต่ตัวของท่านปิยะมังคละนั้น ต้องบอกว่าพูดน้ำไหลไฟดับ เพราะท่านเคยชินกับบาลีปารคูมาก่อน

ดังนั้น...ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของการศึกษา ขอยกให้ว่า ถ้าการศึกษาในเรื่องของบาลีหรือว่าอภิธรรม ทางพม่าเหนือกว่าเรามาก ของเราจบประโยค ๙ แล้วไม่รู้จะทำอะไร สึกหาลาเพศไป ก็หวังจะเป็นแค่อนุศาสนาจารย์ในกองทัพบก เรือ อากาศ ซึ่งทางคณะสงฆ์ก็พยายามที่จะปรับจากวุฒิการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยคให้เทียบเท่าปริญญาเอก แต่ก็ยังไม่ผ่าน

ปัจจุบันนี้ เปรียญธรรม ๙ ประโยคของทางคณะสงฆ์ไทย เขาอนุมัติให้แค่ปริญญาตรีเท่านั้น ซึ่งไม่มีปริญญาตรีหลักสูตรไหนในโลกที่เรียนนานขนาดนี้ เพราะว่าถ้าสอบได้โดยไม่ตกเลย ต่ำสุดต้องใช้เวลาถึง ๘ ปี..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ของเราก็คงต้องปรับว่า ทำอย่างไรที่จะให้ประโยค ๙ ของเราเรียนแล้วสามารถใช้งานได้จริง ไม่ต้องถึงระดับบาลีปารคูแบบของพม่า แต่ว่าให้เป็นที่ยอมรับในสังคมมากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นได้แค่อนุศาสนาจารย์ ไม่ใช่เป็นได้แค่อาจารย์ในวิทยาลัยสงฆ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-11-2021 เมื่อ 07:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา