ถ้าจิตเราหยุดการปรุงแต่ง ทุกอย่างก็หยุดหมด ดับหมด เพียงแต่ว่าเราหยุดเป็นไหม ? ขั้นแรกเริ่มก็คือกลับมาอยู่กับการภาวนา แต่พวกเราก็มักจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่าบางทีภาวนาไป ๆ เหมือนกับแบตเตอรี่เต็ม ไปต่อไม่ได้ หม้อแบตฯ จะระเบิด..!
ให้หางานทำไม่ได้หลอกให้ท่านทั้งหลายทำงานนะครับ แต่ที่กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า ที่รอดมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะว่าหางานทำ จะถูศาลา จะกวาดใบไม้ จะขุดดิน ฟันหญ้า ทำความสะอาดวัดอะไรทำไปเลยครับ
ถ้าไม่มีอะไรทำก็อ่านหนังสือ แต่อ่านหนังสือนี่อย่าปรุงมากนะครับ ถ้าไปใส่อารมณ์ตาม เดี๋ยวก็เจ๊งอีกเหมือนกัน ต้องคอยระมัดระวังให้ดี ประคองกำลังใจของเราให้อยู่ด้านดีมากกว่าด้านที่ไม่ดี
ไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ ? จากวันพระออกไปยังผีเร่ร่อน ย้อนกลับมาที่ความฟุ้งซ่าน จนกระทั่งรักษาโรคซึมเศร้าได้ กระผม/อาตมภาพก็แปลกใจเหมือนกัน เตรียมจะพูดเรื่องอะไร ไม่เคยได้พูดหรอกครับ ต้องว่าไปเรื่อยเปื่อยตามอารมณ์
รบกวนเวลาพวกเรามากแล้ว วันนี้ก็เรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2022 เมื่อ 02:30
|