ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 30-05-2022, 23:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,915 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ก่อนได้อรุณของเราก็คือก่อนที่แสงเงินแสงทองจะขึ้น แต่ของเขาไม่เอาอย่างนั้น เขานับไก่ขันเป็นอรุณ ถ้าเจอไก่วัดท่าขนุนก็เครียดเลย บางทีเที่ยงคืนก็ขันแล้ว ได้ยินเสียงต้องกลับนะ ถ้าไม่กลับโดนลงโทษจะซาบซึ้งมากว่ารสชาติเป็นอย่างไร

ถ้าคนตีผีก็จะลำบากหน่อย ถ้าหากว่ากำลังใจไม่อยู่ในระดับเดียวกันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ไอ้ผีตีผีนี่สาหัส..! เพราะว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่เป็นการทำร้ายจิตวิญญาณ อธิบายยากครับ เอาไว้เจอเองแล้วจะรู้ ดังนั้น..ไอ้ที่กล้าแหกคอกจริง ๆ จึงหายากมาก เพราะว่ากฎเกณฑ์ต่าง ๆ มีอยู่ ถ้าคุณแหกคอกเมื่อไรก็โดนลงโทษ หรือถ้าหากไม่โดนลงโทษหนัก โอกาสที่จะไปรับบุญรับกุศลก็อาจจะน้อยลง

โบราณเขาก็เลยกลัวกันมาก ถ้าหากว่าเป็นวันพระสิ้นเดือน ก็จะสวดมนต์ ไหว้พระ ภาวนากันยกใหญ่ กลางค่ำกลางคืนหมาหอนเมื่อไรก็ตีโปง ยิ่งถ้าพระเคาะระฆังด้วย เจ้าประคุณรุนช่องเถอะ...หมาแย่งกันหอนทั้งหมู่บ้าน ก็ยิ่งทำความวังเวงให้กับบรรยากาศมากขึ้น

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพมารู้ทีหลังว่าเป็นการปรุงแต่งของใจของเราเอง คือใจเราคิดหลอกตัวเองไปเรื่อย ถ้าเราหยุดการปรุงแต่งเมื่อไรก็จบเลย

สมัยบวชใหม่ ๆ
กระผม/อาตมภาพไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าช้า พอดึก ๆ งูออกหากิน เสียงเลื้อยมาบนใบไม้แห้ง ได้ยินชัดเลย เวลาดึก ๆ เงียบสนิทมาก หูจะดีเป็นพิเศษ เพราะว่าระแวงอยู่แล้วด้วย ก็เกิดความรู้สึก เฮ้ย..ตัวไม่ใหญ่เท่าไรหรอก อย่างเก่งก็แค่นิ้วมือเราเอง

อีกสักพักหนึ่ง สภาพจิตเราก็ปรุงแต่งต่อ "เฮ้ย..ถึงจะตัวแค่นิ้วมือ ถ้ามีพิษ กัดเราก็ตายนะ" ความรู้สึกเหมือนกับว่างูตัวนั้นมันใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยหนึ่ง แล้วก็จะปรุงเพิ่มไปเรื่อย ปรุงแต่งไปเรื่อย ท้ายสุดไอ้งูตัวนั้น ในความรู้สึกของเราน่าจะโตประมาณเสาเรือน..! ใจเราปรุงแต่งหลอกเราได้ขนาดนั้น

แต่คราวนี้
กระผม/อาตมภาพค่อนข้างจะบ้าครับ ไม่ค่อยกลัวอะไรง่าย ๆ จะตัวใหญ่สักขนาดไหนเชียว ว่าแล้วก็เปิดกลดออกไปส่องไฟดูเลย ปรากฏว่าเป็นงูปล้องฉนวนตัวประมาณนิ้วก้อย ยาวสักศอกเดียว แต่ในความรู้สึกตอนนั้นก็คือใหญ่ประมาณอนาคอนดาแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2022 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา