ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 12-08-2022, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,147 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วทำอย่างไรเราถึงจะรักษาสภาพไว้ให้นาน ? เพราะว่าส่วนใหญ่ก็คือเมื่อนั่งสมาธิจะทำได้ แต่ขยับลุกเมื่อไรก็หลุดหายหมด ก็ต้องซักซ้อมบ่อย ๆ ไปให้ถึงจุดที่รู้ลมหายใจและคำภาวนาโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็รู้ลมเอง ไม่ต้องบังคับก็ภาวนาเอง ซึ่งถ้าหากว่าจะนับก็อยู่ในระดับอย่างน้อยเป็นปฐมฌานละเอียด

เมื่อถึงตรงจุดนี้ก็เบาแรงแล้ว เหมือนอย่างกับเราเข็นเรือบนบก พอเรือลงน้ำได้ คราวนี้เบาแรงแล้ว มีน้ำช่วยพยุงอยู่ เราก็แค่เอาสติไปคอยประคับประคองระมัดระวังไว้ จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง อย่าให้หลุดไปจากตรงนี้


ถามว่าหลับก็รู้ได้ด้วยหรือ ? รู้ได้ ถ้าสติสมบูรณ์พร้อม หลับอยู่ก็รู้ว่าหลับ จะตื่นยังต้องสั่งตัวเองว่าตื่นได้แล้ว ลืมตา พลิกตัว ลุกนั่ง เหมือนอย่างกับสั่งหุ่นยนต์ แต่ด้วยสภาพจิตที่สั่งงานเร็วมาก ถ้าคนทั่วไปก็คือเห็นเราลืมตา พลิกตัวแล้วก็ลุกนั่งเลย

ถ้าสามารถทำมาถึงตรงนี้ได้ โอกาสชนะกิเลสของเราถึงจะมี ก็คือหลับและตื่นจะมีสติรู้เท่ากัน ถ้าถึงตอนนี้มีบาลียืนยัน ท่านเรียกว่าพุทโธ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทั้งหลับและตื่น รู้เท่าทันกิเลสทั้งปวงว่า ธรรมดาของร่างกายนี้มี รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ เจ้าอยากจะมีก็จงมีไปเถิด ข้าแค่ไม่ไปยุ่งด้วยก็จบแล้ว ก็จะย้อนกลับไปที่เดิมอีก ก็คือทำอย่างไรที่จิตจะไม่ไปปรุงแต่ง ก็ต้องกลับมาหาลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา วนเวียนกันไปอยู่ในลักษณะอย่างนี้

ถ้าหากว่าพิจารณาไม่เป็น ก็อย่าให้หลุดไปจากตรงนี้เป็นอันขาด หลุดเมื่อไรกิเลสตีตายเมื่อนั้น..! แต่ถ้าพิจารณาเป็น ต้องรีบพิจารณาให้เห็นความไม่เที่ยง เห็นความเป็นทุกข์ เห็นความไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา จนกระทั่งสภาพจิตยอมรับ ไม่ไปแตะต้องในสิ่งที่สร้างทุกข์ให้กับเราอีก ทุกอย่างก็จะดับลง นิโรธ คือความเข้าถึงความดับอย่างแท้จริงก็จะเกิดขึ้นกับพวกเรา

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2022 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา