ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 01-08-2021, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,171 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเกี่ยวข้องกันดังนี้ อานุภาพของดวงดาวต่าง ๆ ก็จะสร้างความปั่นป่วนให้แก่เลือดลมและฮอร์โมนในร่างกายของเรา ซึ่งก็คือธาตุน้ำ ธาตุลม ซึ่งจะขึ้นสูงสุด ต่ำสุด หรือว่าเคลื่อนขวางสุด ในช่วงขึ้นแรม ๑๕ ค่ำ หรือแรม ๑๔ ค่ำ หรือว่าขึ้นแรม ๘ ค่ำ คนเราก็จะหงุดหงิด กลัดกลุ้ม วางกำลังใจไม่ค่อยจะถูก บางทีก็ทะเลาะเบาะแว้งกันไปทั่ว

ถ้าอย่างของทางด้านตะวันตก เขาก็เชื่อว่าพวกบรรดาไสยศาสตร์ต่าง ๆ ถ้าอาศัยวันขึ้นแรมของพระจันทร์ จะทำให้เกิดอานุภาพมากขึ้น แล้วอย่างบรรดาผีดูดเลือด หรือว่ามนุษย์หมาป่า ก็เกี่ยวพันกับดวงจันทร์อย่างแนบแน่น

บรรดาโบราณาจารย์ต่าง ๆ ถึงได้กำหนดให้วันขึ้นแรม ๑๕ ค่ำ หรือว่าแรม ๑๔ ค่ำเดือนขาด และวันขึ้นแรม ๘ ค่ำ เป็นวันถือศีล ฟังเทศน์ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม นอนอยู่วัด รักษาศีล ๘ เพราะว่าถ้าหากว่าเรามีศีลเป็นกรอบ มีสมาธิทรงตัว ผลกระทบจากธรรมชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะพลังของดวงดาว ก็จะส่งผลกับเราน้อยมาก ถ้าท่านที่กำลังใจเข้มแข็งทรงตัว ก็ไม่เกิดผล ถ้าหากว่ารู้จักรักษาศีล ปฏิบัติธรรม ก็เกิดผลน้อย สามารถควบคุมอยู่ในขอบเขตที่ตนเองรับได้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องที่มาที่ไปของวันพระ ไม่ใช่แค่สักแต่กำหนดขึ้นมาว่าให้เป็นวันทำบุญ ฟังเทศน์ ฟังธรรม หรือว่าอยู่วัดรักษาอุโบสถศีลเฉย ๆ แต่ว่ามีที่มาด้วยความลึกซึ้ง ที่บางทีพวกท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือว่าญาติโยมก็ตาม อาจจะไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน วันนี้ก็เลยนำมากล่าวถึง เพื่อให้ได้ทราบอย่างชัดเจน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2021 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา