ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 11-08-2022, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,630 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองเคยโดนมาหนัก ๆ อุณหภูมิร่างกายขึ้นไปถึง ๔๒ องศาเซลเซียส ไปหาหมอที่เวชศาสตร์เขตร้อน ไปถึงตอน ๒ ทุ่มกว่า เจอพยาบาล ๒ คนเข้าเวรอยู่ กำลังดูละครหลังข่าวอย่างมีความสุขมาก เจอคุณมงคล หรือที่พวกคุณเรียกว่า "น้าแดง" ไปด้วย ก็ไปถามคุณมงคลว่า "เป็นอะไร ?" คุณมงคลก็บอกว่า "ที่เป็นน่ะหลวงพี่ครับ ไม่ใช่ผม" พยาบาลเห็นกระผม/อาตมภาพเดินได้ปกติอยู่ ก็เลยส่งเทอร์โมมิเตอร์ให้อมเพื่อวัดไข้ แล้วก็ดูหนังกันต่อไป เพลิดเพลินเจริญใจเสียไม่มี..!

เวลาผ่านไปน่าจะเกิน ๑๕ นาที ค่อยนึกได้ว่ามีพระป่วยนั่งหน้าจ๋อยอยู่ ก็เลยหยิบเอาเทอร์โมมิเตอร์ไปดู แล้วก็ทำตาโต "๔๒ องศาฯ..! แล้วท่านเดินมาได้อย่างไร ?" "ก็เดินมาอย่างที่เห็นนี่แหละ ถ้าหากว่าโยมดูหนังนานอีกหน่อย อาตมาก็คงดูด้วยจนจบนั่นแหละ..!"

พวกเขารีบยัดพาราฯ ลดไข้แก้ปวดให้ ๒ เม็ด แล้วก็เจาะเลือดไปตรวจ คราวนี้หมอวิ่งมากันหมดเลย บอกว่าให้แอดมิทเดี๋ยวนี้ อาตมาบอกกับหมอว่า "ไม่ได้ พรุ่งนี้ยังมีงานสำคัญรออยู่ ขอแค่ยาเท่านั้น" หมอบอกว่า "เชื้อสองล้านห้า ขนาดนี้เมื่อวานนี้เพิ่งจะตายไป ๑ ศพ..!" ก็เลยบอกกับหมอไปว่า "อาตมาเป็นแบบนี้มาเป็น ๑๐ ปีแล้ว ถ้าจะตายก็ตายไปแล้วล่ะ ในเมื่อยังไม่ตายก็ขอทำงานก่อน เพราะฉะนั้น..จัดยามาก็แล้วกัน"

ในเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าหากว่าเราไม่ได้เข้าสมาธิรอไว้ก่อน จะเข้าไม่ได้เลยนะ พอร่างกายแย่นี่ เรื่องสมาธิสมาบัติไม่เอาด้วยเลย แต่บังเอิญว่า
กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมปล่อยให้สมาธิหลุด ก็เลยยังพอไปได้

อีกครั้งหนึ่งที่ไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ที่หาดใหญ่ เพราะโยมเห็นว่าป่วยมาก พาไปให้หมอตรวจ ทั้ง ๆ ที่อาการเห็น ๆ อยู่ แต่ว่าผลตรวจออกมา ตรงกันข้ามกันหมด ตัวร้อนฉ่า อาการไข้ก็น่าจะไม่ต่ำกว่า ๔๐ องศา แต่วัดดูแล้วปรากฏว่าได้แค่ ๓๕.๖ องศาฯ ร่างกายเย็นกว่าคนปกติอีก นั่นคือเครื่องมือหมอ ความดันขึ้นหัวจะระเบิด วัดได้ไม่ถึง ๑๑๐

คราวนี้ไปเจอดีตรงที่หมอเวร เขาเรียกนายแพทย์เวร แต่อาตมาเรียกหมอเวร..! เหมือนกับด่าหมอ ถามว่า "ท่านเป็นโรคอุปาทานหรือเปล่า ?" ถามได้น่าเตะมาก..! กระผม/อาตมภาพก็คิดว่า "กูจะทำอย่างไรดีวะ ?" ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยต้องคลายกำลังใจออกมา พอดีพยาบาลเขาวัดความดันใหม่ ความดันตกฮวบลงมาเลย จากประมาณ ๑๐๙ - ๑๑๐ ลงไปเหลือแค่ ๖๐ เท่านั้น..!

ทั้ง ๆ ที่เจ็บไข้ได้ป่วย หูอื้อตาลาย ได้ยินพยาบาลกรี๊ดชนิดขี้หูกระเด็น เพราะว่าอาการแบบนั้นคือคนไข้ช็อค..! แพทย์เวร ๔ รายวิ่งมาดูหมดเลย ก็เลยบอกว่า "หมอจำไว้นะ คนไข้บางประเภทกำลังใจสามารถคุมร่างกายได้ เจ็บไข้ได้ป่วยแค่ไหนก็ไปได้ เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาบอกว่าป่วยเป็นอะไร ขอให้หมอเชื่อเถอะ ไม่ใช่โรคอุปาทานหรอก กรุณาช่วยจัดยาให้หน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2022 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา