พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนคุณอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ขอไปฟ้อนสาวไหมในงานสืบชะตา ระบุวันว่าจะฟ้อนวันที่ ๑๖ ก็เลยบอกบอกว่า ถ้าจะให้คุณอรอนงค์ฟ้อนวันที่ ๑๖ วันอื่นก็ไม่ให้ฟ้อนแล้ว เพราะว่าตั้งใจเอาไว้แล้ว ส่วนท่านอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี บอกว่าเดี๋ยวจะให้เลขาฯ บันทึกไว้ ว่าจะมาเป่าขลุ่ยให้สักเพลงหนึ่ง บอกว่าจะเป่าเพลงค้างคาวกินกล้วย ลืมไปว่าตอนนี้อาตมาจะเอาเพลงทานตะวัน
ฟังค้างคาวกินกล้วยของท่านอาจารย์ธนิสร์แล้วขำ ๆ คนเล่นดนตรีเล่นเก่งมาก เหมือนค้างคาวไปขโมยกล้วยในสวน แล้วก็โดนเขาฟาด โอ๊ย...คร่ำครวญเสียไม่มี คราวนี้ก็ประเภทบินเซซ้ายเซขวา โดนเขาตีบาดเจ็บ บินไปบ่นไป ประมาณว่าแบ่งกันกินแค่นี้ก็ไม่ได้ ปรากฏว่าอีกสักพักหนึ่งกระดี๊กระด๊ามาอีกแล้ว เจอกล้วยใหม่ เป่าได้สุดยอดมาก ฟังแล้วเห็นภาพเลย
คนรุ่นเก่า ๆ เขาแต่งเพลงมองเห็นภาพ รุ่นใหม่มองไม่เห็น มีรุ่นใหม่ไม่กี่เพลงหรอกที่แต่งเพลงแล้วเรามองเห็นภาพได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 11-06-2019 เมื่อ 13:36
|