ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คนสมัยก่อนเห็นเป็นปกติ พอถึงเวลาบวชเรียน ไปขอครูบาอาจารย์เรียนวิชา ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยาก ถ้าหากว่าเราอ่านขุนช้างขุนแผน ตอน พลายแก้วบวชเณร ไม่ทราบว่ามีใครจำได้ไหม ? ที่เขาว่า
"จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว
เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่ในกาญจนบุรี
กับนางทองประศรีผู้มารดา
อยู่มาจนเจ้าเจริญวัย
อายุนั้นได้ถึงสิบห้า
ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา
แต่นึกตรึกตรามากว่าปี
อยากจะเป็นทหารชาญชัย
ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
จึงอ้อนวอนมารดาได้ปรานี
ลูกนี้จักใคร่รู้วิชาการ
พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี
แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
ให้เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์
อธิษฐานบวชลูกเป็นเณรไว้
ครานั้นทองประศรีผู้มารดา
ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน
ท่านขรัววัดส้มใหญ่แลดีครัน
เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา
แม่จักพาไปฝากขรัวบุญท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน
ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-07-2021 เมื่อ 02:40
|