ดูแบบคำตอบเดียว
  #49  
เก่า 15-11-2019, 10:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในสติปัฏฐาน ๔ เรามองอย่างไรว่านั่นคือจิตตานุปัสสนาคะ ?
ตอบ : สภาพความยินดียินร้ายอะไรเกี่ยวกับสภาพจิตของเราทั้งหมด ถ้าหากว่าเรารู้เท่าทันจึงจะเป็นจิตตานุปัสสนาในมหาสติปัฏฐาน แต่ถ้ารู้อยู่แล้วไปแบกเอาไว้เวลารู้สึกว่าทุกข์ หรือว่ารู้อยู่แล้วไปยินดีอย่างเต็มที่เลยเวลาที่มีความสุข อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นจิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ต้องรู้เท่าทันแล้ววางได้ เห็นว่าธรรมดาเป็นอย่างนั้น

ถาม : ในเรื่องเวทนา เขาสอนมาว่าชอบกับไม่ชอบ สุขและทุกข์ แบบกลาง ๆ แล้วธรรมารมณ์ละคะ ?
ตอบ : ธรรมารมณ์ก็คือสภาพของจิตที่เป็นไป อย่างเช่นว่า ยินดีกับรูปสวย เสียงไพเราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ หรือว่าไม่ยินดี หรือว่าเป็นกลาง ๆ หรือไม่ก็สภาพจิตของเราเป็นอย่างไร กำลังพินิจแยกแยะอยู่ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนเหมาะ สิ่งไหนควรกับเรา สิ่งไหนไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่ควรอะไรกับเรา อันนั้นก็คืออารมณ์ธรรมที่เกิดขึ้นในใจ

เพียงแต่ว่าเรื่องพวกนี้บางทีเราศึกษาไปแล้วเหนื่อย พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้แล้วว่า ๑ บรรพ คือ ๑ ตอน ก็สามารถที่จะเข้าถึงมรรคถึงผลได้แล้ว ไม่ต้องไปศึกษาทั้งหมดหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2019 เมื่อ 13:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา