ดูแบบคำตอบเดียว
  #69  
เก่า 22-10-2013, 12:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,443 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนบรรดาพ่อแม่จะมีค่านิยมย้ายลูกไปอยู่ที่สบาย ในเมื่อเป็นความต้องการของบุพการี ลูก ๆ ก็ต้องกัดฟันทำไป มีแต่อาตมาขัดใจมาตลอด แม่ไม่ให้เป็นทหารใช่ไหม ? สมัครไปเรียนเลย แม่ไม่ให้บวชใช่ไหม ? อาตมาก็ทำสิ่งที่แม่ไม่ต้องการให้ทำ ฉะนั้น..ค่อนข้างจะเป็นลูกอกตัญญูอยู่เหมือนกัน แต่บังเอิญว่าทำแล้วดีทุกอย่าง ท้ายสุดแม่ก็ต้องยอมรับ

ถึงเวลาแกก็มานั่งบ่น ๆ "ดูนะ..ปกติโต๊ะอาหารนั่งล้อมกันครบพอดี นี่แหว่งไปที่หนึ่ง มองทีไรก็คิดถึงลูกทุกที เห็นชุดเขียว ๆ เดินจากปากซอยมาคิดว่าลูก ชะเง้อแล้วชะเง้ออีก กลายเป็นเด็ก รด. เดินมา.." นั่นแหละความรักของพ่อแม่

บางทีลาราชการมา ๑๐ วัน มาอยู่กับแม่ ว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำก็นอนหนุนตักแม่ แม่ก็ลูบ ๆ คลำ ๆ แล้วก็บ่น “อะไร..ยังเห็นมันนอนดิ้น ๆ เดินไม่ได้อยู่เลย นี่อายุ ๒๕ แล้วหรือ ?” คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เคยเห็นลูกโตหรอก เด็กสมัยนี้อ้อนพ่อแม่ไม่เป็น อาตมาขนาดเป็นนายทหาร อายุ ๒๕ - ๒๖ ปีแล้วยังนอนตักแม่อยู่เลย เรารักก็แสดงออกซึ่งความรักบ้างสิ จะไปบอกว่าเรารักแม่อยู่ในใจไม่ได้หรอก สมัยนี้ต้องแสดงออก รักใครเจอหน้ากระโดดกอดไปเลย เขาจะได้รู้ว่าเรารักจริง ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-10-2013 เมื่อ 20:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา