ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-11-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,905 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ พวกเรามีเพื่อนใหม่เพิ่มมาอีก ๑ รูป ก็คือท่านอิทธิพล วรลาโภ ย้ายมาจากวัดตะพังคี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ท่านบวชเมื่อ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๔ พวกเราก็ดูแล้วกันว่าใครบวชก่อนใครบวชหลัง จัดให้ท่านลงตามลำดับไป โดยปกติการย้ายมาในลักษณะอย่างนี้ กระผม/อาตมภาพไม่รับหรอก ถ้าจะย้ายมาก็ต้องมาบอกมากล่าว มาตกลงกันให้แน่นอนก่อน ไม่ใช่นึกจะย้ายก็ย้ายมาเลยแบบนี้..!

แม้กระทั่งทางวัดท่าขนุนของเรา ถ้าหากว่าใครยังไม่ถึง ๕ พรรษา จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพไม่ให้ย้ายไปไหน เพราะว่าไปก็มีแต่สร้างความเสียหายให้กับครูบาอาจารย์ เนื่องจากว่ายังศึกษาพระธรรมวินัยไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จะย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ก็ต่อเมื่อเกิน ๕ พรรษาไปแล้ว ดังนั้น..ถ้าท่านติดตามในเว็บไซต์วัดท่าขนุน จะเห็นว่าใครก็ตามที่แหกคอกไปจากวัดก่อน ๕ พรรษา กระผม/อาตมภาพขึ้นบัญชีดำไว้หมด ไม่รับกลับเข้าสังกัดอีก มาก็ไม่รับเข้าพักด้วย..!

ถ้าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ไม่เข้มงวดกับลูกศิษย์ของตน พระศาสนาของเราก็จะพังเร็วขึ้น เพราะว่าศาสนาพุทธของเราไม่มีใครทำลายได้ เนื่องจากว่าหลักธรรมทั้งหลายเป็นของจริง เป็นของแท้ ใครปฏิบัติตามก็ย่อมเกิดประโยชน์แก่คนนั้น แต่ว่าผู้ที่จะทำลายได้ก็คือบุคคลภายในอย่าง ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา นั่นเอง

พระอุปัชฌาย์อาจารย์ในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในลักษณะของ "พระอุปัชฌาย์เป็ด" ไข่แล้วก็ไป ไม่คิดจะฟูมฟักดูแลอะไรเลย ก็ขึ้นอยู่กับลูกศิษย์ว่ารู้จักจะเอาดีหรือเปล่า ? ถ้าไม่รู้จักที่จะเอาดี เดี๋ยวก็ไปเดินขบวนประท้วงการประชุมเอเปคกับเขาอีก..!

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องของความเข้มงวด แต่เป็นระเบียบปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วว่า พระภิกษุตั้งแต่พรรษา ๑ ถึงพรรษา ๕ เรียกว่าพระนวกะ แปลว่าผู้ใหม่ ยังต้องรับนิสัย คืออยู่ร่วมกับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ถ้าพ้นพรรษา ๕ ไปแล้ว พระอุปัชฌาย์อาจารย์พิจารณาแล้วว่าเห็นสมควร จึงจะให้แยกย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ เรียกว่าได้นิสัยมุตตกะ คือพ้นจากการอาศัยครูบาอาจารย์ของตน แต่ถ้าพระอุปัชฌาย์อาจารย์พิจารณาแล้วว่า ความประพฤติ กาย วาจา ใจ ยังไม่ดีพอที่จะไปอยู่ที่อื่น ก็ยังให้ถือนิสัยต่อไป ก็คือยังไม่ได้นิสัยมุตตกะ แต่ปัจจุบันนี้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้แทบจะไม่มีใครปฏิบัติตามกันแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2022 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา