ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 27-10-2021, 10:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,099 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประการหนึ่งก็คือการปวารณา เมื่อวานนี้ทางพระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑลได้ทำปวารณาต่อกัน มีอาตมภาพคนเดียวที่ทำปวารณาวันนี้ เพราะว่าเข้ากรรมฐานสามวัน ปวารณาร่วมกับเขาไม่ได้

การปวารณามี ๒ รูปแบบ คือ ปวารณา ๑ ครั้ง กับแบบปวารณา ๓ ครั้ง ขึ้นอยู่กับการตั้งญัตติ ถ้าสงฆ์เขาตั้งญัตติ สุณาตุ เม ภันเต สังโฆ, อัชชะ ปะวาระณา ปัณณะระสี, ยะทิ สังฆัสสะ ปัตตะกัลลัง เมื่อสงฆ์ทั้งหลายได้มาพรั่งพร้อมกันแล้ว

สังโฆ ขอสงฆ์ทั้งหลาย เตวาจิกัง ปะวาเรยยะ จงปวารณาต่อกันด้วยวาจาสาม ถ้าอย่างนี้ต้องปวารณากันด้วยกันสามจบ ถ้า เอกะวาจิกัง ปะวาเรยยะ ก็ปวารณาแค่จบเดียว ขึ้นอยู่กับความขยันหรือว่าขี้เกียจ แต่ส่วนใหญ่วัดท่าขนุนจะให้ปวารณาสามครั้งไปเลย

คราวนี้การปวารณาต่อกันนั้นสามารถเลื่อนได้ ไม่จำเป็นต้องปวารณาวันออกพรรษา เนื่องเพราะว่าสมัยพุทธกาลนั้น พระท่านอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคีกลมเกลียวกันมาก มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน แนะนำกันตลอดพรรษา ทำให้ท่านรู้สึกว่าอยู่กันแล้วมีความสุข ไม่อยากจะแยกจากกัน ถ้าหากปวารณาแล้วเดี๋ยวก็แยกจากกันไป ก็เลยขออนุญาตเลื่อนการปวารณา

พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้เลื่อนไปได้หนึ่งเดือน พอหนึ่งเดือนผ่านไปแล้วยังไม่อยากแยกจากกันอีก พระพุทธเจ้าทรงเลื่อนให้อีกหนึ่งเดือนเป็นสองเดือน สองเดือนครบแล้วก็ยังไม่อยากจากกัน พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ได้แล้ว ยึดติดมากเกินไป ให้ปวารณาต่อกันไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-10-2021 เมื่อ 07:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 81 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา