ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 30-09-2022, 01:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,038 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนนี้เราจึงควรที่จะจัดงานในวาระสำคัญของราชวงศ์ต่าง ๆ อย่างเช่นว่าวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันพ่อแห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ เป็นต้น เมื่อเราจัดงานตรงนี้ ก็แปลว่ามีการแอบอิงสถาบันเพื่อดึงศรัทธาประชาชนได้เป็นอย่างดี

ข้อที่ ๖ ประสาน ๑๐ ทิศ คืออาศัยหลัก บ ว ร บ้าน วัด ส่วนราชการ โรงเรียน ในการร่วมมือกัน ถึงเวลาจะจัดงานก็แจ้งให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้มาเข้าร่วมงานด้วย ซึ่งส่วนราชการทั้งหลายเหล่านี้ แทบจะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย นอกจากให้เกียรติมาร่วมงาน เท่ากับว่าท่านมีผลงานไปรายงานผู้บังคับบัญชาด้วย เราแค่เสียหนังสือเชิญฉบับเดียวเท่านั้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ยินดีที่จะมาร่วมงานแล้ว เป็นการดึงคนเข้าวัดได้ดีมากอีกวิธีหนึ่ง

ข้อที่ ๗ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่ชุมชน อย่างของวัดท่าขนุน เราก็ไปเสาะหาว่ามีวัฒนธรรม ประเพณี หรือว่าสินค้าชุมชนอะไร ที่สามารถนำมาแปรเป็นตัวเงินได้ โดยที่ถึงเวลาแล้วไม่ต้องพึ่งพาสิ่งต่าง ๆ จากภายนอก

เราสามารถมีสินค้ามาจำหน่าย หารายได้เข้าครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำอาหาร เรื่องของเครื่องจักสาน เรื่องของผ้าทอ เรื่องงานฝีมืออื่น ๆ เรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในชุมชน เรื่องพืชผักผลไม้ที่มีชื่อเสียงของชุมชน เหล่านี้เป็นต้น ถ้าหากว่าเราส่งเสริมอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ จำเป็นที่จะต้องหาตลาดให้เขาจำหน่ายสินค้าได้ด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จึงจะเป็นการส่งเสริมอย่างยั่งยืน

ดังนั้น..ถ้าหากว่าสำนักปฏิบัติธรรมอื่น ๆ ปฏิบัติตาม ๑ ยุทธศาสตร์ ๗ ยุทธวิธีของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรีแห่งที่ ๒๓ (วัดท่าขนุน) ก็เชื่อมั่นได้ว่าท่านทั้งหลายสามารถประสบความสำเร็จเช่นกัน เพียงแต่ว่าอย่าได้ทำงานใหญ่ขนาดวัดท่าขนุน..!

ให้ยึดหลักที่โบราณว่า "นกน้อยทำรังแต่พอตัว" เราอาจจะมีคนแค่ ๓ คน ๕ คน ๑๐ คน ๒๐ คน เราก็พยายามจัดให้มีการสวดมนต์ไหว้พระ มีการเจริญกรรมฐานบ่อย ๆ ระยะแรกอาจจะจัดในทุกวันหยุด คือวันเสาร์หรือว่าวันอาทิตย์ แล้วหลังจากนั้น เมื่อเริ่มผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เราก็อาจจะทำให้เข้มข้นขึ้นมา ด้วยการจัดในวันหยุดราชการ หรือวันสำคัญทางนักขัตฤกษ์อื่น ๆ โดยกำหนดเป็นหลักสูตร ๓ วัน ๒ คืนบ้าง หรือว่า ๕ วัน ๔ คืนบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-09-2022 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา