ดังนั้น..ในเรื่องต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วยเหตุผลที่บางคนก็รับรู้ไม่ได้ ถ้าเราบอกไปก็เหมือนอย่างกับกีดกันคนอื่น แต่ถ้าท่านทั้งหลายสังเกต จะเห็นว่าในสมัยก่อนของวัดท่าขนุนนั้น ถ้าหากว่ามีการบวงสรวงไหว้ครูและพุทธาภิเษกทุกครั้ง เราจะรับฝากวัตถุมงคลเข้าพิธีชนิดไม่อั้น มีปัญญาขนมาเท่าไรก็ขนเข้าพิธีไปได้เลย จึงเห็นได้ชัดเจนว่า ของเราไม่ได้มีการกีดกันแบบเลือกที่รักมักที่ชัง
แต่ว่าเหตุผลที่ให้ไปนั้นเป็นเหตุผลเฉพาะเรื่องจริง ๆ สงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์กันไป กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่ต้องเหนื่อยยาก วิ่งไปยังวัดวาอารามต่าง ๆ เพื่อที่จะปลุกเสกให้ เนื่องจากว่าท่านทั้งหลายขนมาเข้าพิธีที่วัดท่าขนุนไปแล้ว แต่ในเมื่อไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ให้ได้ ก็ต้องบอกว่าไม่สามารถที่จะสงเคราะห์ได้
แม้แต่ในพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้านก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับที่ว่าพระท่านจะสงเคราะห์หรือไม่ ? ถ้าหากว่าตั้งวัตถุมงคลเอาไว้เป็นคันรถ แต่ท่านไม่สงเคราะห์ให้ ก็ต้องใช้ศัพท์แสลงที่ว่า "สมหวัง" ไปตาม ๆ กัน
สำหรับวันนี้ ก็เรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-09-2022 เมื่อ 02:56
|