ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 02-12-2011, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,439 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อมาพิจารณารู้ความจริงของชีวิตร่างกายทุกผู้ทุกนามแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ มีก็เท่ากับว่าไม่มี คือว่างเปล่านั่นเอง เพราะสูญสลายไม่ช้าก็เร็ว

เมื่อกำหนดจิตเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเป็นของว่างเปล่า จิตก็ต้องเข้าถึงความว่าง ธาตุว่างจากทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เมื่อพิจารณาทบทวนความไม่มีของกายเรา กายเขา ขันธ์ ๕ เรา ขันธ์ ๕ เขา มีแล้วก็เหมือนกับไม่มี เพราะแปรปรวนไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่จริง เป็นของปลอมของสมมติ หาตัวตนตัวเราตัวเขาไม่ได้ เพราะทุกอย่างมีแต่เดินหาทางหาความทรุดโทรม ผุพัง สูญสลายตายกันในที่สุด

จิตก็จะหลุดจากกิเลส คือว่างจากความทุกข์ยาก จิตจะเป็นอิสระเสรี ไม่ยึดเกาะในสิ่งของจอมปลอมอีกต่อไป ถึงแม้จิตจะยังอาศัยอยู่ในร่างกาย แต่จิตก็ไม่หลงรักว่าเป็นอันเดียวกับจิต

อย่าเอาใจจิตไปนึกว่ามันมี รูป รส กลิ่น เสียง ปล่อยไปเพียงแต่ผ่านไปผ่านมาเท่านั้น ถ้าอารมณ์ทรงอยู่ จิตไม่สนใจขันธ์ ๕ ของใคร วางเฉยไม่ทุกข์ร้อน ทำงานทุกอย่างตามหน้าที่ ไม่เสียใจ ทุกข์ใจ ดีใจ ตามความวุ่นวายของร่างกาย จนจิตเป็นหนึ่ง คือครองอารมณ์เฉยเป็นเอกัคตารมณ์ เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสำหรับเรา เราไม่มีสำหรับกาย จิตจะสะอาดเบิกบาน ผ่องใส พ้นจากความยึดมั่นในของปลอมของทุกข์ของร้อน พระท่านเรียกว่า "จิตของพระอรหันต์"

วิธีทำจิตว่างจากกายเรา กายเขา แบบนี้เป็นแบบลัดแบบง่าย มีแต่พรหมวิหาร ๔ ไม่ยอมยึดถืออารมณ์ใด ๆ มาไว้ในจิต มีความจำได้หมายรู้ก็ทำเป็นเหมือนไม่มีความจำ เพราะแม้ความจำก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่ช้าก็ลืม ประสาทสมองลืมง่าย

ดังนั้น..ความจำ ความคิด ความอ่าน ความเจ็บปวด ความกังวลใจ ความฟุ้งซ่านวิตกกังวล ก็เป็นเรื่องของกาย ให้สลัดกายทิ้งออกจากจิต ให้จิตเต็มไปด้วยพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มี คนเกิดมาเท่าไรก็ตายหมด สลายหมดเท่านั้น ทุกอย่างไม่มีเที่ยงแท้

ค่อย ๆ ทำแบบสบาย อย่าเร่งรัด ค่อยเป็นค่อยไป จิตให้มีความรู้สึกอยู่เสมอว่ากายเป็นของไม่จริง ของชั่วคราว พังสลายในที่สุด จิตเป็นของจริง ของเบา ของบริสุทธิ์สะอาด เมื่อร่างกายนี้พังแตกสลาย จิตนี้เราจะติดตามรอยพระบรมศาสดาเข้าพระนิพพาน

ผู้ที่เพียรทำจิตให้ว่างจากร่างกาย หรืออารมณ์ต่าง ๆ แบบนี้เป็นแบบของพระอริยเจ้า เป็นสมาธิเป็นวิปัสสนาญาณอยู่ด้วยกัน ทำได้ทุกเวลา ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน ทำได้ทั้งที่อยู่คนเดียว หรืออยู่เป็นหมู่คณะ เป็นทางหลุดพ้นทุกข์ได้อย่างแน่นอน เป็นทางลัดตรงไปถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพานได้รวดเร็ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 04-12-2011 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา