ตามที่กระผม/อาตมภาพพิจารณาดูแล้ว ชาวพุทธของเราแบ่งออกได้ประมาณ ๓ พวก
พวกแรกก็คือ ชาวพุทธเข้มงวด แต่เป็นความเข้มงวดแบบเถรตรงจนเกินไป ก็เลยทำให้หันไปทางด้านไหนก็ชนเสาตลอด ก็คือในเมื่อเข้มงวด จนกระทั่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถที่จะไปได้ เพราะว่ายุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งเราก็มี "คุณยายไดโนเสาร์" กับบรรดาบริวารเขายืนเป็นหลักอยู่ในกลุ่มนี้
พวกที่สองก็คือ ชาวพุทธยืดหยุ่น ก็คือพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน แต่ว่าการปรับตัว เท่าที่กระผม/อาตมภาพสังเกตดู เป็นการปรับไปในทางเสื่อม เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าสันดานคนถนัดในการรับ ไม่ได้ถนัดในการให้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนในเรื่องของทาน ศีล ภาวนา เพื่อตัดกิเลสใหญ่ คือ โลภ โกรธ หลง ในใจของเรา แต่ว่าในปัจจุบันนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกตดู จะเห็นว่าพระภิกษุสามเณรของเรามีโครงการให้แก่ชาวบ้านกันเยอะมาก แม้กระทั่งวัดท่าขนุนก็ให้เยอะมาก
แล้วถ้าหากว่านานไป ชาวบ้านรับจนชิน ก็จะเกิดสิ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยเจอมา ก็คือ "ปีนี้ไม่ให้หรือ ?" "วันนี้ไม่ให้หรือ ?" งอมืองอเท้ารอรับอย่างเดียวเลย ไม่ได้คิดที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง แทนที่จะกลายเป็นการตัดความโลภ ก็กลายเป็นการเพิ่มความโลภให้กับเขาอีก..!
ดังนั้น...ในเรื่องของการให้ จึงต้องให้ในลักษณะที่ผู้รู้เขาบอกว่า "สอนให้เขาจับปลา อย่าเอาปลาไปให้เขาโดยตรง" ถ้าเอาปลาไปให้เขาโดยตรง เมื่อเขากินหมด เราก็ต้องเอาไปให้เขาอีก แต่ถ้าสอนให้เขาจับปลา เขาจะรู้วิธีหาปลากินเองไปตลอดทั้งชีวิต
ดังนั้น...ในพวกของชาวพุทธยืดหยุ่นจึงควรจะมีจุดที่พอเหมาะพอดีของตนเอง ให้อย่างไรที่จะทำให้เขารับในลักษณะของการไปหาปลาเอง ก็คือต้องให้แค่การสนับสนุนบางส่วน ที่เหลือเขาต้องขวนขวายดิ้นรนเอาเอง ไม่อย่างนั้นแล้วชาวพุทธยืดหยุ่น แม้ว่าจะพยายามปรับตัวเข้ากับสังคมปัจจุบัน แต่เป็นการปรับตัวในทางที่ผิด ก็จะสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาได้เช่นกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2022 เมื่อ 02:26
|