หลังจากนั้นก็ให้ภาวนา "พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศ" ต่อด้วย "นะโมพุทธายะ ๕ จบ" ก็เท่ากับว่าองค์ละจบ ก็คือ
อิติปาระมิตตา ติงสา อิติสัพพัญญู มาคะตา
อิติโพธิ มะนุปปัตโต อิติปิ โส จะ เตนะโม
นะโมพุทธายะ
หลังจากนั้นแล้ว ตั้งใจน้อมนึกถึงภาพพระที่คลุมตัวเราอยู่ให้ถนัดชัดเจน ภาวนา "เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา"
ถ้าหากว่ามีทิพจักขุญาณแจ่มใส ก็ภาวนาไปจนกระทั่งพระท่านบอกว่าพอแล้ว แต่ถ้าหากว่าทิพจักขุญาณไม่เพียงพอ เอาเป็นหลักประกันเลย ก็คือให้ภาวนา เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา สัก ๑๐๘ จบ แล้วก็ปิดท้ายด้วยการบูชาพระรัตนตรัย ด้วยอิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๓ ห้อง กลั้นใจม้วนเป็นตะกรุด สามารถใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องเข้าพิธีใหม่อีก
ดังนั้น..ท่านใดก็ตาม ถ้าตั้งใจจะศึกษาการทำตะกรุดมหาสะท้อน สามารถที่จะทำได้ตามนี้ โดยมีการจำกัดที่วัสดุ วันเวลา และขณะเดียวกัน ถ้าใครมีพื้นดวงอย่างอาตมา ก็คืออริเป็นมรณะ ก็จะยิ่งมีผลใหญ่
ส่วนท่านใดถ้าสามารถทรงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ได้ ก็ถือว่าเป็นโชคอย่างมหาศาลของผู้ที่รับตะกรุดไป ก็คือเราจับภาพพระให้สว่างไสวเป็นประกายพรึก ครอบไปทั้งจักรวาลเลยก็ได้ แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่ได้ทำแบบฉุกเฉิน ก็คือเขียนแล้วม้วนใช้งานเลย เมื่อถึงเวลาสั่งโรงงานทำมาให้ เมื่อปลุกเสกเราก็ต้องนึกถึงภาพยันต์ โดยกำหนดเขียนยันต์ในใจและภาวนาไปตามลำดับดังที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อจบลงที่ เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เต สัมมุกขา ให้ต่อด้วยอิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๗ จบ พูดง่าย ๆ ก็คือว่าถ้ามักง่ายให้โรงงานทำให้ ขั้นตอนก็จะยากขึ้นนิดหนึ่ง
ดังนั้น..ตรงนี้ก็ขอเรียนถวายตุ๊พ่อสิงห์ว่า ในงานอายุวัฒนมงคล ๘๔ ปี วัตถุมงคลทุกอย่าง ผมสามารถช่วยปลุกเสกให้ได้ ยกเว้นประเภทมหาสะท้อน ตุ๊พ่อโปรดได้เมตตาทำให้กับญาติโยมเขาด้วยตนเองนะครับ ก็ขอเรียนถวายตุ๊พ่อแล้วก็แจ้งให้แก่ญาติโยมที่ต้องการจะศึกษาวิชาการพวกนี้
ขอย้ำว่าเรื่องพวกนี้ ในสายตานักวิชาการคือไสยศาสตร์ แต่ถ้าหากว่าเรายึดพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง กำหนดภาพพระท่านอยู่เป็นปกติ ก็จะกลายเป็นพุทธศาสตร์ ก็คือยึดมั่นในพุทธานุสตินั่นเอง ขอเจริญพร
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2021 เมื่อ 02:31
|