ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 22-05-2021, 21:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,148
ได้รับอนุโมทนา 4,405,388 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน แม้ว่าจะเริ่มขึ้นมาจากเครื่องรางของขลัง แต่นั่นเป็นส่วนน้อย ส่วนที่ตั้งใจจริง ๆ ก็คือ ถ้าคุณไปทางโลก จะมีแนวทางทำมาหากินที่ดีที่สุด ซึ่งองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงสรุปมาให้แล้ว ก็คือเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

แต่ถ้าคุณจะไปทางธรรม เราก็มีให้ ไล่ตั้งแต่ต่ำสุดไปจนสูงสุด คือเข้าถึงพระนิพพาน โดยที่จะมีหลวงปู่สายเป็นบุคคลตัวอย่าง พูดง่าย ๆ ว่าใครมาพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ต้องการทำมาหากินทางโลก จะได้แนวคิดกลับไปทำ ต้องการปฏิบัติธรรม จะได้กำลังใจในการปฏิบัติ คือต้องการอะไรก็จะได้อย่างนั้นกลับไป ไม่ใช่มามือเปล่า แล้วก็กลับมือเปล่า

ฉะนั้น..ในส่วนนี้ถ้าหากว่าทางบริษัทเขาเสนอราคามาอยู่ในระดับที่ผมรับได้ ก็จะลงมือทำเลย เชื่อว่าถ้าทำเสร็จแล้ว ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่น คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างไรในการที่จะเป็นค่าเข้าชม ซึ่งถ้าแพงไป คนไทยเราก็ไม่ให้ความสนใจ

แบบเดียวกับที่ผมไปปราสาทสัจธรรมประมาณ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นก็ยังทำได้ไม่ถึงครึ่ง ขอซื้อตั๋ว ๕ ใบ เจ้าหน้าที่ถามว่า "ขออภัยเจ้าค่ะ พระอาจารย์รู้ไหมว่าราคาค่าเข้าชมเท่าไร ?" ก็เลยส่งแบงค์ห้าร้อยให้เขา ๕ ใบ บอกว่าศึกษามาแล้ว สมัยนั้นคนไทยเข้าดูคนละ ๕๐๐ บาท..! พอไปพิพิธภัณฑ์ร้อยเผ่าพันธุ์มังกร ค่าตั๋ว ๒๙๙ บาทต่อคน เท่ากับ ๓๐๐ บาท มีคนเข้าน้อยมาก แต่ผมเข้าไป เพราะว่าสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้เราดู ไม่ใช่สิ่งที่จะเห็นได้ทั่วไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2021 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา