ดูแบบคำตอบเดียว
  #7  
เก่า 27-09-2021, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,949 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเช้านี้ท่านทั้งหลายฟังพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอธิการบดีกล่าวถึงการพัฒนาสังคม ข้อแรกถูกใจผมมากเลยครับ นั่งอยู่บนรถก็ได้ยินได้ฟังอยู่ ท่านบอกว่าให้พัฒนาตนให้มีฤทธิ์เสียก่อน แล้วค่อยไปช่วยสังคม หรือไม่ก็ออกไปพัฒนาสังคมแบบนั้นเลย ซึ่งข้อแรกได้เปรียบมากกว่าครับ

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท ป.ธ.๘) ที่หลายคนเรียกว่า "หลวงพ่อเล็ก" ด้วยความเคารพ ท่านเจอหน้าผม ท่านพูดบ่อย ๆ บอกว่า "ผมไม่รู้หรอกว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมีฤทธิ์ขนาดไหน แต่ดูจากพวกท่าน ผมมั่นใจเลยว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงมีฤทธิ์แน่นอน

เพราะผมดูจากวัดท่าซุง ที่ท่านเจ้าคุณอนันต์สืบทอดมา ดูจากวัดเขาวง ดูจากวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ดูจากวัดธรรมยาน ดูจากวัดท่าขนุน แต่ละคนถ้าไม่มีฤทธิ์ ไม่สามารถที่จะพัฒนาวัดให้เจริญได้ขนาดนั้น ในเมื่อลูกศิษย์มีฤทธิ์ขนาดนี้ ถ้าอาจารย์ไม่มีฤทธิ์ เป็นไปไม่ได้หรอก"


นี่หลวงพ่อท่านฟันธงเองนะครับ ผมเองผมก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีฤทธิ์ในวันที่ท่านบอกนั่นแหละ แล้วมาวันนี้ท่านเจ้าคุณอธิการบดี ท่านก็บอกว่า "เราต้องปฏิบัติจนตัวเองมีฤทธิ์ก่อน พัฒนาตนเองจนมีฤทธิ์ก่อน แล้วค่อยออกไปพัฒนาสังคม"

คราวนี้การที่ท่านทั้งหลายจะพัฒนาตนเองนั้น หลักการนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานไว้ให้ ๒,๖๐๐ กว่าปีแล้วครับ ก็คือหลักไตรสิกขา ศีล สมาธิ และปัญญา ธรรมดา ๆ นี่แหละครับ ธรรมดาชนิดที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่กลายเป็น "หญ้าปากคอก" ไปครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2021 เมื่อ 19:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา