คราวนี้ญาติโยมทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติธรรม ส่วนหนึ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ ต้องทบทวนศีลอยู่ทุกวัน ก่อนนอนทบทวนว่า
วันนี้เราได้ฆ่าสัตว์ไปหรือเปล่า ? จะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์น้อย สัตว์ใหญ่ อะไรก็ตาม ได้ทำร้ายสัตว์ให้ลำบากด้วยเจตนาหรือเปล่า ? ไม่ฆ่าหรอก แต่ตีแค่น่วม ๆ ก็แย่พอกัน..!
วันนี้เราได้หยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้หรือเปล่า ? ในแต่ละวันเรามีโอกาสลักขโมย หยิบฉวย ช่วงชิง สิ่งของของคนอื่น แล้วเราได้ล่วงละเมิดหรือเปล่า ?
เห็นคนที่เขารัก เห็นของที่เขารัก มีความต้องการ เราได้ละเมิดคนที่เขารัก ของที่เขารักหรือเปล่า ?
เรารู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง มีเจตนาที่จะกล่าวเพื่อโกหกหลอกลวงคนอื่นให้หลงเชื่อหรือไม่ ?
สุราเมรัย ยาเสพติดต่าง ๆ ที่ย้อมจิตของตนเองให้มึนเมาขาดสติ เราได้เสพบ้างหรือเปล่า?
ถ้าหากว่ามีข้อหนึ่งข้อใดบกพร่อง ให้ตั้งใจว่า ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์บริบูรณ์ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารักษาต่อไป ลักษณะเดียวกับที่พระปลงอาบัติ สารภาพในท่ามกลางสงฆ์ พร้อมกับมีคำกำกับท้ายว่า
นะ ปุเนวัง กะริสสามิ ข้าพเจ้าจะไม่กระทำเช่นนี้อีก
นะ ปุเนวัง ภาสิสสามิ ข้าพเจ้าจะไม่พูดเช่นนี้อีก
นะ ปุเนวัง จินตะยิสสามิ ข้าพเจ้าจะไม่คิดเช่นนี้อีก
คิดเป็นมโนกรรม พูดเป็นวจีกรรม ทำเป็นกายกรรม แปลว่าไม่เพียงแต่ไม่ทำ แม้แต่พูด หรือคิด เราก็ไม่ทำด้วย ทำไมถึงต้องสารภาพในท่ามกลางสงฆ์ ? ก็เพราะว่าจะได้มีบุคคลเป็นพยาน แล้วก็คอยตักเตือนเวลาที่เราพลาดอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2022 เมื่อ 20:16
|