โบราณเขาต้องเอาไปย่างไฟ ก็คือก่อไฟจนได้ถ่านแดง ๆ มา แล้วก็เกลี่ยเป็นรางยาว ๆ เอาคนเจ็บเพราะผึ้งต่อยขึ้นไปผิงไฟ เพราะว่าความร้อนจะทำลายฤทธิ์พิษผึ้งได้เร็ว อาจจะเป็นเพราะว่าให้กินน้ำร้อนแล้วเหงื่อออกมากด้วย ก็เลยขับพิษออกมาทางผิวหนังได้
ครูบาอาจารย์ก็สงสัยมาก "ก็มึงได้คาถาไปแล้วนี่ แล้วไม่ได้ท่องหรือ ?" พี่สมานยืนยันว่า "ท่องครับ ผมท่องตลอดเลย" ครูก็สงสัย "อ้าว ..แล้วทำไมเพื่อนมึงโดนผึ้งต่อย ?" พี่สมานตอบว่า "ก็มันเป็นคนปีนขึ้นไปครับ ผมท่องคาถาอยู่ที่โคนต้น..!" โคตรฉลาดเลย..! มีเพื่อนแบบนี้ระวังตายฟรี ท่องคาถาหัวใจหมีอยู่ที่โคนต้น ให้เพื่อนปีนขึ้นไปตีผึ้ง...!
แต่ความจริงแล้วถ้าหากว่าเพื่อนเขามั่นใจจริง ๆ ก็กันได้นะ เพราะว่าเรื่องพวกนี้สำคัญอยู่ที่ใจเท่านั้น
นึกไปถึงตอนที่กระผม/อาตมภาพอยู่ที่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ ก็มีพระอาจารย์สมพงษ์ เขมจิตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนรูปก่อนอาตมานี่แหละ แล้วก็ทิดจิตร (จิตติพัฒน์ เอี่ยมโอด) ดร.พระครูปลัดปรีชา จิรนาโค ตอนนั้นยังเป็นพระใหม่ แล้วใครอีกจำไม่ได้รวมเป็น ๓ - ๔ คน เข้าไปขอฝึกวิชา
กระผม/อาตมภาพก็ "ได้สิ..อยากฝึกวิชา กำลังใจต้องมั่นคง ต้องเป็นคนกล้าหาญ ไม่กลัวอะไร" โน่น..ไปปีนน้ำตกผาสวรรค์ น้ำตกแต่ละชั้นสูง ๗๐ - ๘๐ เมตร แล้วน้ำเทสวนลงมาอย่างกับฟ้าถล่ม ถ้าใจไม่ถึงจริงไม่กล้าปีนหรอก ตกลงมาตายเสียเปล่า ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-05-2022 เมื่อ 03:11
|