ดูแบบคำตอบเดียว
  #13  
เก่า 18-01-2023, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,601 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราไม่ได้อยู่ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นด้วยกันทุกวัน หลังทำวัตรเย็นเขาจะมีปานะมาถวาย มีเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนรูปเดียวที่ไม่รับ ต่อหน้าก็ไม่เอา ลับหลังก็ไม่เอา ทำไมถึงทำได้ ? ก็เพราะว่าการห้ามปากห้ามใจตัวเองก็เป็นการรักษาศีลนั่นแหละ ในเมื่อเรารักษาศีลได้ ก็แค่เพิ่มเข้าไปอีกข้อหนึ่ง ศีลข้อหลังเพลแล้วห้ามตัวเองไม่ให้กิน

ถ้าเราทำได้ ท้ายที่สุดก็จะเหมือนพระเจ้าปเสนทิโกศลในโทณปากสูตร พระองค์ท่านอ้วนเสียจนจะเดินไม่ไหว พระพุทธเจ้าต้องสอนคาถาให้สุทัสสนมาณพ ที่เป็นทหารคนสนิทหรือมหาดเล็กคนสนิท เมื่อถึงเวลาเห็นพระเจ้าปเสนทิโกศลฉันภัตตาหารไปถึงคำสุดท้าย ก็ให้ท่องคาถาขึ้นมาว่า "บุคคลผู้มีสติ รู้ประมาณในการบริโภค ย่อมเป็นผู้มีโรคน้อย อายุขัยก็ยืนยาว" พระเจ้าปเสนทิโกศลได้สติก็หยุด หยุดฉันคำสุดท้ายหนึ่งคำ วันรุ่งขึ้นก็เอาอีก ลดอาหารลงไปอีกหนึ่งคำ ลดวันละคำเดียว

พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงยัดทะนาน..! ไม่ใช่เสวย เขาบอกว่าเฉพาะข้าวสารที่เสวยในแต่ละมื้อ หุงจากข้าวสาร ๑ นาฬี ซึ่งก็น่าจะเท่ากับประมาณ ๑ ลิตรในปัจจุบัน พวกเราไหวกันไหม ? ข้าวสาร ๑ ลิตร ใครยัดทะนานลงไปหมดบ้าง เฉพาะข้าวอย่างเดียว ?

พระพุทธเจ้าให้ลดวันละคำ พอถึงคำสุดท้ายสุทัสสนมาณพท่องคาถา พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ชะงัก..ตัดใจ รุ่งขึ้นก็ลดลงอีกหนึ่งคำ ผ่านไปสองเดือนก็ "ทรงพระสเลนเดอร์" พระองค์ท่านถึงได้ตรัสว่า "พระพุทธเจ้านั้นไม่ได้สอนให้แต่ประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ยังสอนให้เกิดประโยชน์ทันตาในชาตินี้ด้วย" ก็คือ "ทรงพระสเลนเดอร์" และสุขภาพก็ดีขึ้นด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2023 เมื่อ 01:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา