ท่านอาจารย์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สมชัย ศรีนอก เวลาเขียนหนังสือ เขียนกลอน หรือแต่งเพลง ใช้นามปากกาว่า ช. ศรีนอก ตอนช่วงเรียนปริญญาเอก ทางมหาวิทยาลัยเขามีข้อบังคับว่าต้องเข้ากรรมฐาน ๔๕ วัน ถ้าหากว่าปริญญาโทต้องเข้ากรรมฐาน ๓๐ วัน ปริญญาตรีเข้ากรรมฐานปีละ ๑๐ วัน ๔ ปีติดกัน
เข้ากรรมฐานไปได้ ๒ - ๓ วัน ที่แคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์ เขาแยกห้องพัก ห้องใครห้องมัน ปรากฏว่าตอนที่จะเดินไปสวดมนต์ทำวัตรเย็น มีนิสิตผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาดีมากเลย เดินผ่านอาจารย์ ช. ถามว่า "อาจารย์รู้ไหมว่าชาติก่อนเราเป็นอะไรกัน ?" อาจารย์ ช. ภาวนาไม่ได้ไป ๗ - ๘ วัน..! ท่านบอกว่า "ท่านเอ๊ย ผมนี่ฟุ้งไปหมด ! เขาเป็นอะไรกับเราวะ ?" แล้วก็คิดแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลยนะ..! เห็นหรือยังว่าไม่ใช่แค่พูดผิดชีวิตเปลี่ยน ฟังผิดก็ชีวิตเปลี่ยน..!
ถ้าถามว่า "จะแก้อย่างไร ?" ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ มีอยู่เต็มหัว ทุกรูปทุกนามนั่นแหละ เพียงแต่ว่าถ้าเราไม่ปรุงแต่งต่อ ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เกิดไม่ได้ ก็ทำอันตรายเราไม่ได้
กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบว่า ถ้าเราลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วยน้ำเปล่า ส่งไปให้จะใครจะกินบ้าง ? ถ้าไม่หิวไส้ขาดจริง ๆ ใครจะซดเข้าไป ? ก๋วยเตี๋ยวกับน้ำร้อนเปล่า ๆ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-01-2023 เมื่อ 02:48
|