ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 18-08-2021, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,248 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ แม้ว่าเป็นปรมัตถบารมีอย่างละเอียด ก็ยังขึ้นอยู่กับการสั่งสมของเราว่ามีมามากน้อยเท่าไร แล้วก็มาในรูปแบบไหน เพราะว่าแนวการปฏิบัตินั้นมีอยู่ถึง ๔ แบบด้วยกัน ก็คือ

ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติก็ลำบาก บรรลุก็ยาก
ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติลำบาก แต่บรรลุเร็ว
สุขาปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติสบาย แต่บรรลุยาก
สุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติสบาย แต่บรรลุง่าย

ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราเอาคนอื่นเป็นแบบ แล้วพยายามที่จะทำให้เหมือน เป็นเรื่องยากนักที่เราจะทำได้ เพราะว่าปฏิปทาอาจจะไม่ตรงกัน จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องศึกษาและนำไปพลิกแพลงให้เหมาะสมกับตนเอง ไม่อย่างนั้นแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะทำได้อย่างที่ตนเองต้องการ เพราะว่าการศึกษาเป็นแค่การเรียนรู้ การพลิกแพลงนั้น เป็นการหล่อหลอมความรู้ของเราทั้งหมด เพื่อเอามาใช้งาน

ถ้าหากว่าเราเป็นปฏิมากร การศึกษาก็คือ เก็บเอาความรู้จากท่านโน้น ท่านนี้ ท่านนั้น จากตำรา จากประสบการณ์ เหมือนกับปฏิมากรที่เลือกดิน จากตรงโน้นนิด ตรงนี้หน่อย เมื่อเอามารวมกันแล้วจะสร้างเป็นผลงาน ก็ต้องขยำดินทั้งหลายเหล่านั้นเข้าด้วยกัน แล้วค่อยขึ้นรูปที่เป็นผลงานเฉพาะของตนเอง ซึ่งจะไม่เหมือนใคร ต่อให้เลียนแบบคนอื่นได้ใกล้เคียงแค่ไหน ก็ยังมีความต่างอยู่ดี

โดยเฉพาะการเลียนแบบอย่างตั้งอกตั้งใจนั้น เป็นการผูกมัดตัวเอง ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบรรลุมรรคผล เพราะว่าการที่เราจะเข้าถึงมรรคถึงผลนั้น เราต้องปล่อยวางทุกอย่าง
ตรงนี้ต้องฟังให้ดี ๆ ไม่อย่างนั้น ก็จะมีคนทำผิดและตีความผิด หรือเข้าใจผิดอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2021 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา