“ดังนั้น..ในเรื่องของความสามัคคีเมื่อจะเกิดขึ้น แต่ก็มีคนกวนน้ำให้ขุ่น ในเมื่อมีคนคอยกวนน้ำให้ขุ่น อาตมาถึงได้ข้อสรุปกับตัวเองมาตั้งแต่ ๒๐ กว่าปีที่แล้วว่า ใครวางก่อนสบายก่อน แต่ต้องวางด้วยปัญญาจริง ๆ ไม่ใช่วางใส่หัวชาวบ้านเขา มีคนตำหนิ มีคนว่า แสดงว่าเราต้องมีข้อบกพร่อง พยายามพิจารณาดูว่าบกพร่องตรงไหน แล้วแก้ไขไป คนที่จะยอมสละตัวเองเป็นกระจก ให้เราเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดน่าชังนั้นหายาก เพียงแต่ว่าถ้าส่องกระจก ก็ส่องให้ครบ ๖ ด้าน พยายามปรับปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด
ส่วนใหญ่แล้วพวกเราเตือนตัวเองไม่เป็น เตือนเป็นก็ด่าตัวเองได้ไม่แสบพอ ก็เลยยังเอาดีไม่ได้สักทีหนึ่ง ต้องด่าตัวเองให้เจ็บ ๆ ถึงจะรู้สำนึก ไม่อย่างนั้นแล้วส่วนใหญ่ถึงเวลาก็ไหลตามกิเลสไป เกรงใจ..อยู่กับกิเลสมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว อยู่ ๆ จะมาละทิ้งกัน ทำใจไม่ได้ เพราะว่าเราเป็นคนดี เรารักเพื่อน เพื่อนที่หน้าตาเหมือนกิเลสนี่ไม่น่ารักหรอก..!”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2019 เมื่อ 19:49
|