แต่ถ้าท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุและสามเณรนิสิต มีความประมาท ไม่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้เกิดผล เพื่อจักได้เป็นผู้ยืนยันว่าพระพุทธศาสนาของเรา ซึ่งประกอบไปด้วย พระศาสดา ๑ ศาสนสถาน ๑ ศาสนบุคคล ๑ ศาสนธรรม ๑ ทั้งสี่อย่างนี้มีความดี ความงาม ความเลิศอย่างไร ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ประพฤติปฏิบัติตามอย่างไร
ถ้าอธิบายไม่ได้ ก็แปลว่าเราเสียทีที่เราเป็นพระภิกษุสามเณร ซึ่งอาศัยพระบวรพุทธศาสนาอยู่ ซึ่งตรงนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายอาศัยอยู่เพื่อที่จะช่วยกันยังอายุพระศาสนาให้ยืนยาวต่อไปก็ยังพอทน เพราะว่าเรายังศึกษาในพระปริยัติธรรม
แต่ว่าเราก็ต้องศึกษาให้ลึกซึ้ง เพื่อที่เวลาอุบาสกอุบาสิกามีข้อข้องขัดใด ๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม มาเพื่อที่จะสอบถามข้อธรรมในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เราต้องสามารถยกเอาข้อธรรมทั้งหลายขึ้นมาบอกกล่าวได้อย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ได้แต่เป็นผู้ที่เฝ้าพระพุทธศาสนาอยู่ เพื่อรอวันสูญสลายไปเท่านั้นเอง
หลังจากที่ได้ให้โอวาทแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ลาทั้งครูบาอาจารย์และนิสิตทั้งหมด เดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก เพื่อรอปฏิบัติหน้าที่ของตนเองในลำดับต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2022 เมื่อ 02:57
|