ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 27-09-2021, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายที่ใช้เทคโนโลยีทางโลก จนกระทั่งลืมตนเองไป นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะว่าท่านทั้งหลายทำงานไปก็จะเหนื่อยมาก แต่นอนพักเท่าไร ไม่รู้จักหายเหนื่อยหายเพลีย เพราะว่าท่านพักแต่กาย ใจของท่านไม่ได้พักเลย พอถึงเวลาก็กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นเปลว ก็คือกลางคืนก็ครุ่นคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย กลางวันก็ทำตามที่ตนเองคิด ในเมื่อท่านทั้งหลายไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้ ต่อให้ปัญหาอยู่ตรงหน้า บางทีเรามองไม่เห็นทางออกนะครับ

แต่ถ้าท่านที่พัฒนาตนเอง ด้วยการพยายามรักษาศีล เมื่อใช้สติระมัดระวังในการรักษาศีลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง สมาธิย่อมเกิดขึ้น เมื่อสมาธิเกิดขึ้น ถ้าได้รับการชักนำอย่างถูกต้องก็จะเป็นอัปปนาสมาธิ สามารถทรงกำลังแนบแน่น กดกิเลสให้ดับลงชั่วคราวได้ หลังจากนั้นเราต้องใช้ปัญญาในการครุ่นคิด มองให้เห็นความไร้แก่นสารในโลกนี้ จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด หมดความอยากในโลกนี้ หมดความอยากในร่างกายนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็สามารถยกจิตของตนขึ้นสู่เหนือโลก ก็คือพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง

เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว สิ่งที่ท่านดำเนินชีวิตอยู่ ก็เป็นไปตามปกติธรรมดาของสังขารเท่านั้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อถึงระดับนั้นแล้ว ก็ปฏิบัติตนเป็น "เนติ" คือแบบอย่างให้แก่คนรุ่นหลัง ด้วยการทำงานรับใช้สังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมที่กว้างหรือแคบก็ตาม ต้องเป็นที่พึ่งของญาติโยมทั้งหลาย เพราะว่าพัฒนาตนมาถึงระดับที่ยืนด้วยตนเองได้ สามารถนำพาผู้อื่นไปด้วยได้ กลายเป็นดอกไม้บานที่บรรดาหมู่แมลงมารุมตอม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2021 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา