เรื่องของศีลนั้นตรงไปตรงมา พระเณรของเราจำเป็นที่จะต้องทบทวนในเรื่องของศีล ส่วนของญาติโยมในแต่ละวัน สมัยที่อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่าก่อนนอนให้ทบทวนว่า วันนี้ศีลของเรามีข้อไหนบกพร่องบ้าง แล้วตัดสินใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเราจะเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ แล้วก็ภาวนาให้หลับไป ก็แปลว่าเราจะเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ตั้งแต่ตอนที่ตั้งใจ จนกระทั่งตื่นขึ้นมา
หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว จะไปละเมิดศีล ละเมิดธรรม อะไรที่ไหน ก็ถือว่าเป็นคนละวาระ คนละเวลากัน บุญที่เราทำคือส่วนของบุญ กรรมที่เราสร้างคือส่วนของบาป ไม่ได้ปะปนกัน แต่ถ้าหากว่าจะให้ดีก็คือ ควรที่จะรักษาให้ต่อเนื่อง สามารถทำได้ต่อเนื่องทุกลมหายใจเข้าออกก็ยิ่งดี
ในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ที่เรามาฝึกซ้อมมาปฏิบัติอยู่ อย่างเมื่อเช้าเราก็สมาทานศีล ใส่บาตรวันอาทิตย์กัน ญาติโยมจะเห็นว่าโครงการนี้เป็นที่นิยมมาก คนแห่กันไปมากเลย ขอบอกตรง ๆ แบบไม่เขินเลยว่า ขโมยโครงการนี้มาจากประจวบคีรีขันธ์ ไปดูงานทางวัฒนธรรม ในฐานะที่เป็นประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ก็พาคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมไปดูงาน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เขามีงานถนนวัฒนธรรมสายสู้ศึก ช่วงเช้ามีการใส่บาตรพระ ชักชวนนักท่องเที่ยวไปใส่กันแบบนี้ แต่ขอโทษนะ...พระของเขาทั้งวัดมีอยู่แค่ ๑๐ รูป ทั้งพระทั้งเณรหมดวัดแล้วมีแค่นั้น อาตมภาพเห็นว่าเขามีแค่ ๑๐ รูป เขายังกล้าจัดงานแบบนี้ แล้วพระของเราตั้ง ๔๐ - ๕๐ รูป ทำไมเราจะจัดไม่ได้ กลับมาถึงก็เริ่มลงมือเลย จัดงานมาครบหนึ่งปีทั้ง ๆ ที่โดนโควิด ๑๙ เล่นงาน หกล้มหกลุกมา แต่โยมก็สังเกตเห็นว่าคนมากันเยอะมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-01-2022 เมื่อ 03:03
|