ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 10-08-2021, 23:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,603 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะเวลาที่ออกธุดงค์ ถ้าหากว่าอากาศเปลี่ยนเมื่อไร ไข้มาลาเรียจะเริ่มจับขึ้นมาทันที ตอนช่วงนั้นร่างกายยังแข็งแรงอยู่ เพราะว่ามาเลิกธุดงค์หลังปี ๒๕๔๐ ซึ่งตอนนั้นก็เพิ่งจะอายุแค่ ๓๐ เศษ ๆ แต่ในปัจจุบันนี้อายุ ๖๐ ปีเศษ ซึ่งไข้ขึ้นทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยน อย่างเช่นวันนี้จากที่ฝนตกกระหน่ำทั้งคืน อยู่ ๆ อากาศก็เปลี่ยนเป็นเหมือนกับฤดูหนาว หมอกเต็มไปทั้งเมือง ต้องบอกว่าปวดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า..! แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ เพราะว่าในอดีตชาติเคยสร้างกรรมเอาไว้มาก

แม้กระทั่งหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านก็ยืนยันว่า "แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก ชาตินี้จะต้องป่วยหนักและอายุสั้น..!" แล้วท่านก็แนะนำว่าให้บรรเทาอาการลง ด้วยการปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างเช่นปลาในตลาด สักเดือนละตัวสองตัว จะได้บรรเทาอาการเหล่านี้ลงได้ กระผม/อาตมภาพก็อวดดีกับครูบาอาจารย์ กราบเรียนท่านว่า "แล้วผมจะปล่อยไปทำไมครับ ? เพราะว่าการปล่อยปลาทำให้อายุยืน ผมเองไม่ต้องการอยู่แล้ว"

ท่านยังอุตส่าห์เมตตาบอกว่า "แกอย่าเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่า ช่วยให้เราอายุยืนได้ก็ต่อเมื่อช่วงนั้นมีอุปฆาตกรรมเข้ามา การกระทำตรงนี้ถึงจะมาต่ออายุให้เราอยู่รอดต่อไป แต่ถ้าไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามา เราปล่อยให้เขารอดชีวิต ได้กลับคืนไปสู่แหล่ง
ที่อาศัยของตน มีความสุข มีความสะดวกสบาย ต่อไปแกทำอะไรก็จะสบายไปหมด"

ด้วยความที่เป็นผู้ที่เคารพครูบาอาจาย์ ท่านสั่งอะไรก็คือต้องทำตลอดชีวิต ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๙ อาตมภาพก็เริ่มปล่อยชีวิตสัตว์เป็นต้นมา ปล่อยแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่คราวนี้จะปล่อยทีละตัวสองตัวก็ไม่ได้ พอเข้าตลาดไป เห็นปลาตาปริบ ๆ ก็ต้องเหมาหมด แรก ๆ ก็เอามาปล่อยที่ท่าน้ำวัดท่าซุง อยากจะบอกด้วยความภูมิใจว่า วังมัจฉาวัดท่าซุงเกิดจากอาตมภาพปล่อยปลาติดต่อกันอยู่ ๕ ปี..!

ตอนแรกส่วนใหญ่ก็ไปซื้อ "ปลาดุกบิ๊กอุย" ก็คือเขาเอาปลาดุกรัสเซียผสมกับปลาดุกอุยของไทยเรา จนเป็นสายพันธุ์ใหม่ เนื้อเหมือนปลาดุกอุย แต่ตัวใหญ่ด้วยสายพันธุ์ปลาดุกรัสเซีย ก็ซื้อครั้งละปีบหนึ่งบ้าง สองปีบบ้าง เอามาปล่อยลงที่บ่อข้างร้านอาหารป้ากิมกี (นางกิมกี หลากสุขถม) ปล่อยแบบนั้นทุกเดือน จนวันหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกว่า "แกได้แหกตาดูบ้างหรือเปล่า ? ปลาจะไม่มีที่หายใจอยู่แล้ว..!" จึงลองซื้ออาหารเม็ดหว่านลงไป เจ้าประคุณเถอะ...ขึ้นมาจนไม่มีที่ว่างแม้แต่ตารางนิ้วเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2021 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา