"มาทบทวนพุทธภาษิตกันหน่อยจ้ะ"
พระภิกษุชรา ไหล่ค้อมเล็กน้อย ห่มจีวรย้อมขมิ้น หน้าตาผ่องใสเยือกเย็น เดินมาในแสงสว่างนวลละมุนละไม ประหนึ่งดวงจันทร์วันเพ็ญขึ้นพร้อมกันสัก ๑๐ ดวง
น้อมกราบลงแทบเท้า "พระเดชพระคุณต้องการบทไหนครับ ?"ท่านยิ้มน่ารักแบบคนแก่ใจดี
"เอาคำพูดหรูแฟ่ประเภทนี้ไปใช้กับคนอื่นเถิดจ้ะ ฉันฟังแล้วจั๊กกะเดียมหู คราวนี้ฟังฉันให้ดีนะจ๊ะ
อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ"
"คนทำบาปย่อมเศร้าหมองเอง คนไม่ทำบาปย่อมบริสุทธิ์เองครับ"
"สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย"
"ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน บุคคลหนึ่งจะทำอีกบุคคลหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่ครับ"
"นั่นแหละจ้ะ ที่ฉันฝากบอกบริษัทบริวารของเธอ อย่าไปกังวลกับเรื่องของคนอื่น โดยเฉพาะกับเรื่องของเธอ ให้ระวังรักษาใจของตัวเองเอาไว้ให้ดี
บุคคลหว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น คนทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี คนทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว
ให้ทุกคนระมัดระวังรักษากาย วาจา ใจของตน ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา สั่งสมบุญกุศลให้มากเข้าไว้
โลกใบนี้จะร้อนร้ายขึ้นไปเรื่อย ๆ เราต้องอดทนได้ เยือกเย็นได้ โดยเฉพาะความมีสติ ตราบใดที่ผู้ปกครองยังไม่อยู่ในศีลในธรรมอย่างแท้จริง ตราบนั้นบ้านเมืองก็จะวุ่นวายไปเรื่อย
อย่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น ทำหน้าที่ของแต่ละคนให้ดีที่สุด ถ้ากำลังใจส่งส่ายวุ่นวาย ให้นึกถึงฉัน แล้วภาวนาคาถาชินบัญชร จิตใจจะได้สงบ เห็นทางออกในการดำเนินชีวิต
ขอฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ ฉันลาแล้วนะจ๊ะ"
พระภิกษุชราหันกายเดินจากไป รัศมีผ่องใสเยือกเย็นเหมือนกับโดนดึงดูดตามไปด้วย อาตมาสะดุ้งตื่นจากฝันพอดี
กราบขอบพระคุณหลวงปู่เป็นอย่างยิ่งครับ แต่แหม..คำพูดหลวงปู่บางคำไม่คุ้นหูเลยครับ