ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 29-04-2024, 02:45
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,791
ได้ให้อนุโมทนา: 269,926
ได้รับอนุโมทนา 839,925 ครั้ง ใน 12,815 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อครั้งก่อนได้ฟังหลวงพ่อท่านบอกให้ทราบว่าการเป็นหนี้นั้น ไม่สามารถที่จะบวชได้ อย่างนี้การขอขมาและขอให้เจ้าหนี้ยกหนี้ให้ก็สามารถที่จะบวชได้ ? แล้วในกรณียักยอกทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือคนอื่น ๆ หากตอนยังไม่บวช ได้ไปขอขมาแล้วบอกกล่าวเจ้าทรัพย์ขอให้ยกทรัพย์ที่ยักยอกให้ บังเอิญว่าเจ้าของทรัพย์นั้นมีเมตตายกโทษ และยกทรัพย์ให้เพราะความสงสาร เช่นนี้ เงินที่ยักยอกก็ดี เงินที่ยักยอกแล้วนำมาซื้อเป็นของก็ตามที นำมาใช้ของนั้นจะมีโทษหรือไม่ ? หากนำเงิน หรือของนั้นมาใช้ในภายหลังบวชแล้ว ได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าเจ้าของทรัพย์ยอมตามนั้นก็ใช้ได้

ถาม : กรณีที่ขอขมาแล้ว เจ้าหนี้ยกหนี้ให้แล้ว หรือเจ้าทรัพย์ที่ยักยอกไม่ติดใจ ยกโทษและยกทรัพย์หรือเงินนั้นให้ แต่ภายหลังบวชพระ แล้วนำเงินหรือทรัพย์นั้นมาใช้ แต่เกิดความไม่สบายใจในภายหลัง ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ ? เกิดตายในระหว่างจิตเศร้าหมองนี้ มีโทษใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใช้เงินตัวเองจะไม่สบายใจก็เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับการต้องอาบัติ..!

ถาม : ผมได้อ่านข้อความจากเว็บไซต์หนึ่งบอกประมาณว่า การกล่าวปลงอาบัติไม่สามารถแก้อาบัติพระที่ต้องสังฆาทิเสสได้ แต่การกล่าวคำปลงอาบัติสามารถระงับวันการอยู่กรรมได้ เรื่องนี้เท็จจริงประการใดครับ ?
ตอบ : การปลงอาบัติแก้อาบัติสังฆาทิเสสไม่ได้ แต่ถ้าตั้งใจแจ้งให้ทางคณะสงฆ์ทราบ ก็หยุดเวลาในการต้องอาบัติลง ทำให้กำหนดการอยู่กรรม (ปริวาส) ชดใช้ นับจากวันต้องอาบัติมาจนถึงแค่วันนั้น

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2024 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา