ฉะนั้น...สิ่งทั้งหลายเหล่านี้สำคัญตรงที่ว่า เรียนแล้วอย่าแบกมานะเอาไว้ เรียนเพื่อเป็นแนวทางที่เราจะได้รู้ว่า การที่เราจะเดินทางข้ามวัฏสงสารนั้น ต้องไปทางไหน ? ไปอย่างไร ? เมื่อรู้แล้วก็รีบเร่งปฏิบัติให้เกิดผล แล้วถึงเวลาช่วยนำไปบอกต่อคนอื่น ถ้าใครต้องการแค่ตำรา บอกกล่าวไปตามตำรา ถ้าใครต้องการมรรค ต้องการผลจริง ๆ ก็บอกกล่าวอารมณ์ที่เป็นปัจจัตตังให้กับเขา ถ้าอย่างนั้นการเรียนพระไตรปิฎกของเราก็จะเป็นการเข้าถึงอย่างแท้จริง ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ได้ตรัสปุจฉาเอาไว้
วันนี้ก็เป็นวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ต้องบอกว่าแม้ว่าจะอยู่ในช่วงของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ แพร่ระบาด ผมก็ยังมีงานที่ต้องไปโน่นไปนี่อยู่เสมอ เสียงธรรมที่จะส่งมอบให้กับคณะญาติโยมที่อยู่ทางบ้าน หรืออยู่ต่างประเทศตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าวาระงานบีบคั้น ก็อาจจะขาดหายไปบ้าง พระภิกษุสามเณรของเราที่รอฟังสิ่งที่ผมจะพูดจะบอกกล่าว เพื่อปรับทัศคติ ปรับแนวการปฏิบัติของตนเอง ก็อาจจะผิดหวัง เพราะว่าขาดหายไปบ้าง แต่ว่าก็ให้เป็นตามเหตุ ตามปัจจัยไปก็แล้วกัน วันนี้ก็ขอให้แนวคิดไว้แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-04-2021 เมื่อ 10:03
|