ในเรื่องความกลัวนั้น พระอาจารย์บอกกับพระลูกศิษย์ว่า "ถ้าหากเข้าใจว่าความตายเป็นเรื่องปกติแล้ว เราจะหมดความกลัวทุกอย่างเลย
ผมตามดูมาเป็นปี ๆ เรื่องกลัวตาย เช่น กลัวผี ผีหลอกแล้วจะทำอย่างไร ? ก็บีบคอเราแล้วเราจะเป็นอย่างไร ? เราก็ตาย หรือเข้าป่ากลัวงูกัด กัดแล้วเป็นอย่างไร ? เดี๋ยวก็ตาย ท้ายสุดมาลงที่ตายหมดเลย เพราะฉะนั้น..ผมเลยมาสรุปว่าความกลัวทั้งหมด ไม่ว่ากลัวจากภายในหรือภายนอกก็คือกลัวตายอย่างเดียว
กลัวแล้วไปปรุงแต่ง ผมไปนั่งกรรมฐานในป่าช้า พอดึก ๆ เสียงอะไรดังจะได้ยินชัดมาก ผมก็ฟัง..เสียงดังขนาดนี้เหมือนเสียงงูตัวเล็กเลื้อย ก็ถือไฟฉายไปส่อง ที่ไหนได้ยังไม่ทันได้ส่องเลย ใจไปแวบว่า "ตัวขนาดนั้น ถ้ามีพิษเราโดนกัดก็ตายนะ" คราวนี้คิดไปใหญ่เลย "ตัวอาจจะใหญ่กว่าขนาดที่เราคิดไว้" คิดไปเรื่อย ประมาณชั่วโมงเดียวงูตัวนั้นใหญ่เท่าเสาเลย..! ก็คือปรุงแต่งเพิ่มขนาดไปเรื่อย
ในสถานการณ์จริงสิ่งที่เราซ้อมมายังใช้ไม่ได้ ยังเป็นแค่เราจำได้ ยังไม่ใช่ทำได้ เพราะฉะนั้น..ทำอย่างไร เราก็สมมติสถานการณ์และก็ไปซ้อมบ่อย ๆ ครูบาอาจารย์ท่านถึงได้บอกว่าต้องออกธุดงค์ ต้องเข้าป่า ต้องนอนป่าช้า ซ้อมให้จิตเคยชินเอาไว้ พอมาเจอสภาพแบบนั้นจริง ๆ จะได้ไม่กลัว
ผมเองก็อยากรู้ที่โบราณเขาบอกว่า เข้าป่าธุดงค์อย่าไปปักกลดขวางทางสัตว์ ผมก็ปักเลย อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คราวนี้ขวางทางเดินประจำของเขา ก็เป็นเรื่องสิครับ เสือจะลงกินน้ำ ผมขวางอยู่เสือก็ไม่กล้าลง เสือก็กลัวนะ ไม่ใช่ไม่กลัว ก็เดินวน ๆ เดี๋ยวก็คำรามไปเรื่อย เมื่อเห็นผมไม่ไปแน่ ก็ตะกุยต้นไม้แคว่ก ๆ รุ่งเช้าไปดู โอ้โห..ต้นไม้แหกอย่างกับซอยมะละกอจะทำส้มตำ..!
ต้องหัดให้ได้อย่างนี้ก็คือ ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ให้สติอยู่ตรงหน้า รู้อยู่ว่าความตายเป็นของธรรมดา ร่างกายที่เรารักนักรักหนานี้ไม่ใช่ของเราหรอก เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง เราเหมือนกับคนขับรถ เวลารถพังถ้าเปิดประตูได้ก็ลงไปหารถคันใหม่ ถ้าเห็นเป็นธรรมดาเราจะไม่กลัวตาย แต่ถ้าเราไปเห็นว่าเราไม่ใช่คนขับรถ ตัวเราเป็นรถยนต์ ที่นี้จะกลัวเป็นบ้าเป็นหลังเลย ใครเข้าใกล้นี่ก็กลัว เดี๋ยวใครเขาจะชนจะเฉี่ยวเอา
ทีนี้กว่าจะเห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา ก็ต้องมานั่งแยกรูปแยกธาตุ กว่าจะเห็นว่าเป็นธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลมได้ ต้องแยกแล้วสลายออก แยกแล้วรวมเข้า แยกแล้วแยกอีก จนในยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ใช่ของเรา ความกลัวตายจะลดลงจนหายไปเอง
ก่อนหน้านี้ตอนเด็ก ๆ ผมกลัวผี แล้วห้องน้ำก็ไม่ได้อยู่ข้างในบ้าน ส้วมหลุมอยู่ข้างนอกบ้านไกลมาก ต้องเดินผ่านป่าไปด้วย มืดตื๋อเลย กลัวผีมาก จนต้องอั้นขี้อั้นเยี่ยวอยู่จนสว่าง แต่พอเข้าใจแล้วก็สามารถไปได้ เพราะว่าไม่กลัวแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2020 เมื่อ 19:48
|