พระอาจารย์ท่านบอกว่า "ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ต้องวางอารมณ์ให้พอดี ถ้าไม่พอดี เกินหรือขาด โอกาสที่จะเข้าถึงเป้าหมายจะยาก แล้วที่ทุกคนจะต้องเจออยู่จุดหนึ่งก็คือ พอทำ ๆ ไปช่วงหนึ่งแล้วตัน ไปต่อไม่ได้ อันนั้นไม่ได้หมายความว่าเราทำแล้วไม่ได้ผล หากแต่ว่าเกิดจากว่าสติ สมาธิ ปัญญาของเราที่สั่งสมมา ยังไม่พอที่จะก้าวพ้นจุดนั้นได้ ดังนั้น..จึงไม่ใช่เลิกทำ แต่ว่าต้องย้ำแล้วย้ำอีก ทำแล้วทำอีก พิจารณาแล้วพิจารณาอีก ในลักษณะนั้นจะเบื่อไม่ได้
พอถึงเวลาแล้วไม่ได้อย่างใจ ความต้องการที่จะได้อย่างใจ ก็จะทำให้เราหงุดหงิด เบื่อ เซ็ง บางคนก็ประชดชีวิตเลิกทำไปเลย เราจะเบื่อไม่ได้ ให้รู้ไว้ด้วยว่านั่นเกิดจากการสั่งสมของศีล สมาธิ ปัญญายังไม่ได้ในระดับหนึ่ง ต้องซักซ้อมใหม่ ย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ตอกหัวตะปูเข้าไป เดี๋ยวก็จมมิดไปเอง ถ้ากำลังพอแล้ว ถึงเวลาเมื่อเราก้าวล่วงไปแล้ว หันไปดู อ้าว...คราวที่แล้วโง่ฉิบหายเลย เสือกโง่เอง
เหมือนกับว่า นักโทษเจาะกำแพง เจาะไป ๆ มุดเข้าไปทั้งตัวแล้วยังไม่ทะลุสักที เบื่อ ถอยกลับ ทั้งที่เหลือกำแพงหนาแค่นิ้วเดียวเท่านั้น แต่หมดกำลังใจ ท้อถอย เลิกทำเสียก่อน น่าเสียดายมาก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2020 เมื่อ 03:18
|