บุรพกรรมของสุปปพุทธะและแม่โค
ได้ยินว่า โคแม่ลูกอ่อนนั้น เป็นยักษิณีตนหนึ่ง เป็นแม่โคปลงชนทั้ง ๔ นี้คือ
กุลบุตรชื่อปุกกุสาติ ๑
พาหิยทารุจีริยะ ๑
นายโจรฆาตกะชื่อตัมพทาฐิกะ ๑
สุปปพุทธกุฏฐิ ๑
จากชีวิตคนละร้อยอัตภาพ.
ได้ยินว่า ในอดีตกาล ชนเหล่านั้นเป็นบุตรเศรษฐีทั้ง ๔ คน
นำหญิงแพศยาผู้เป็นนครโสเภณีคนหนึ่ง ไปสู่สวนอุทยาน
เสวยสมบัติตลอดวันแล้ว ในเวลาเย็น ปรึกษากันอย่างนี้ว่า
"ในที่นี้ไม่มีคนอื่น,
เราทั้งหลายจักถือเอากหาปณะพันหนึ่งและเครื่องประดับทั้งหมดที่พวกเราให้แก่หญิงนี้แล้ว
ฆ่าหญิงนี้เสียไปกันเถิด."
หญิงนั้นฟังถ้อยคำของเศรษฐีบุตรเหล่านั้นแล้ว คิดว่า
"ชนพวกนี้ไม่มียางอาย อภิรมย์กับเราแล้ว
บัดนี้ปรารถนาจะฆ่าเรา, เราจักรู้กิจที่ควรกระทำแก่ชนเหล่านั้น"
เมื่อถูกชนเหล่านั้นฆ่าอยู่ ได้กระทำความปรารถนาว่า
"ขอเราพึงเป็นยักษิณี ผู้สามารถเพื่อฆ่าชนเหล่านั้น
เหมือนอย่างที่พวกนี้ฆ่าเรา ฉะนั้นเหมือนกัน."
คนโง่ทำกรรมลามก
ภิกษุหลายรูปกราบทูลการกระทำกาละของสุปปพุทธะนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทูลถามว่า "คติของสุปปพุทธะนั้นเป็นอย่างไร? เพราะเหตุไรเล่า? เขาจึงถึงความเป็นคนมีโรคเรื้อน."
พระศาสดาทรงพยากรณ์ความที่สุปปพุทธะนั้นบรรลุโสดาปัตติผลแล้ว
เกิดในดาวดึงส์ภพ และการเห็นพระตครสิขีปัจเจกพุทธเจ้า ถ่ม (น้ำลาย) แล้วหลีกไปทางซ้าย๑-
ไหม้แล้วในนรกตลอดกาลนาน ด้วยวิบากที่เหลือ ถึงความเป็นคนมีโรคเรื้อนในบัดนี้แล้ว ตรัสว่า
"ภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่านี้เที่ยวกระทำกรรมมีผลเผ็ดร้อนแก่ตนเองแล" ดังนี้แล้ว
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรมให้ยิ่งขึ้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
จรนฺติ พาลา ทุมฺเมธา อมิตฺเตเนว อตฺตนา
กโรนฺตา ปาปกํ กมฺมํ ยํ โหติ กฏุกปฺผลํ.
ชนพาลทั้งหลาย มีปัญญาทราม มีตนเป็นดังข้าศึก
เที่ยวทำกรรมลามก ซึ่งมีผลเผ็ดร้อนอยู่.
๑-อปพฺยามํ กตฺวา ถือเอาความว่า หลีกซ้าย.
ธรรมดาบัณฑิตเห็นพุทธบุคคลแล้ว ย่อมหลีกทางขวา. ดูใน อรรถกถาอุทาน หน้า ๓๖๘.
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น
บทว่า จรนฺติ ความว่า เที่ยวกระทำอกุศลถ่ายเดียวด้วยอิริยาบถ ๔ อยู่.
ชนทั้งหลายผู้ไม่รู้ประโยชน์ในโลกนี้และประโยชน์ในโลกหน้า ชื่อว่าพาล ในบทว่า พาลา นี้.
บทว่า ทุมฺเมธา คือ มีปัญญาเขลา.
บทว่า อมิตฺเตเนว ความว่า เป็นราวกะว่าคนมีเวรผู้มิใช่มิตร.
บทว่า กฏุกปฺผลํ ความว่า มีผลเข้มแข็ง คือมีทุกข์เป็นผล.
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.