ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 13-12-2022, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,907 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าเป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่ดีมาก เพราะว่าการบายศรีสู่ขวัญนั้น กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่าเป็นภาษาที่โบร่ำโบราณมาก ถ้าถามว่า โบราณถึงขนาดไหน ? ก็โบราณถึงขนาดที่สามารถใช้ติดต่อกับผีกับเทวดาได้..!

ภาษาที่ว่าก็คือเพลงร้องประกอบการรำในการเรียกขวัญ ก็คือ "มาเย้อ..ขวัญเอยฯ" คำว่า มาเยอหรือมาเย้อ ก็คือ มาเถิด แปลว่าขวัญของเรา ไม่ว่าจะไปตกอยู่ในที่แห่งหนใด ในป่าในเขา ในต่างบ้านต่างเมืองใดก็ตาม บัดนี้เจ้าของขวัญได้มานั่งอยู่ ณ ที่นี้แล้ว ขอให้ขวัญทั้งหลายของเรากลับคืนเข้าสู่ร่างกายด้วยเถิด เพื่อความเป็นมิ่งขวัญ เป็นศิริมงคลแก่เจ้าของขวัญนั้น ๆ

เรื่องนี้ก็เป็นที่อัศจรรย์มาก เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ผู้ที่สามารถติดต่อกับสิ่งลี้ลับได้ ต่างก็มีความรู้ในเรื่องนี้เช่นกัน แม้แต่ในพระไตรปิฎกก็มีการกล่าวถึงสิริ คือมิ่งขวัญประจำองค์เศรษฐี ซึ่งมีผู้มองเห็นแล้วพยายามที่จะขโมยไป แต่ว่าเนื่องจากไม่ใช่บุญของตนเอง มิ่งขวัญนั้นจึงเลื่อนหนีไปเรื่อย ๆ ได้

ส่วนในทางด้านประเทศจีนนั้น มีความเชื่อถึงเรื่องของ ๓ ขวัญ ๗ วิญญาณของบุคคลเป็นปกติอยู่แล้ว ทางด้านบรรพบุรุษของเราที่สามารถติดต่อกับผีกับเทวดาได้ ก็ย่อมมีความรู้ในเรื่องนี้เช่นกัน

ดังนั้น..บุคคลที่เกิดอะไรขึ้นอย่างกะทันหัน อย่างเช่นว่าเกิดอุบัติเหตุก็ดี ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก็ตาม ตลอดจนกระทั่งตกใจจากเหตุการณ์ต่าง ๆ จนเกิดอาการ "ขวัญหนี" ขึ้นมา แล้วทำให้ไม่แข็งแรง มีการเจ็บไข้ได้ป่วยออด ๆ แอด ๆ เมื่อมีหมอขวัญหมอทำมาทำการเรียกขวัญให้ ก็มักจะหายวันหายคืนเช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2022 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา