ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 20-09-2022, 23:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,826 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการทำทานนั้น ในเมื่อเป็นการทำเพื่อตัดความโลภ ก็ให้ทำบ่อย ๆ "ทำน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง ดีกว่าทำมาก ๆ ครั้งเดียว" การทำน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง เราได้จาคานุสติ ได้ทานบารมีทุกครั้ง เมื่อทำไปนาน ๆ เข้า กำลังใจเข้มแข็งมากขึ้น ก็สามารถที่จะสละออกได้มากขึ้น แต่เป็นการสละออกแบบคนมีปัญญา ไม่ใช่ว่าเรามี ๒๐ บาท เราก็ทำบุญ ๒๐ บาท เพราะเห็นว่าคนอื่นทำทีเป็นพันเป็นหมื่น หรือว่ามหาเศรษฐีพันล้านทำบุญทีหนึ่งตั้งล้านบาท..!

ถ้าหากว่าเรามี ๑๐ บาท เราทำไป ๑ บาท นั่นเท่ากับ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ที่เรามีอยู่ แต่มหาเศรษฐีพันล้าน ทำบุญหนึ่งล้าน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้เลย แล้วจะไปเปรียบเทียบกำลังใจได้อย่างไร ?

การทำทานนั้น ถ้าหากว่าเนื้อนาบุญอยู่ในระดับเดียวกัน เราก็ได้เกิดเป็นมหาเศรษฐีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเราอาจจะมีทรัพย์แค่ ๘๐ โกฏิ ส่วนคนที่ทำมาก เพราะมีความคล่องตัวกว่า เขาอาจจะมีสัก ๒๐๐ - ๓๐๐ โกฏิ แต่ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ของมหาเศรษฐีเช่นเดียวกัน

ดังนั้น..ในเรื่องของการทำทานจึงควรที่ต้องพินิจพิจารณา ดูว่าทำแล้วตัวเราและคนรอบข้างเดือดร้อนหรือไม่ ? ให้ระลึกอยู่เสมอว่า ทานใดที่ทำไปแล้ว ตัวเราและคนรอบข้าง มีผู้หนึ่งผู้ใดเดือดร้อน นั่นไม่ใช่ทานที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ต้องใช้ปัญญาให้มากเข้าไว้ ไม่ใช่ทำกันแบบบ้าเลือด แล้วก็พาให้เกิดการ "บ้านแตกสาแหรกขาด..!"

แบบเดียวกับที่บางคนไปเจอการทำบุญแบบแชร์ลูกโซ่ คนหนึ่งต้องหาเพิ่มให้ได้ ๕ คน จาก ๕ คนต้องหาให้ได้ ๒๕ คน ลักษณะของการกระทำก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเจตนาไม่บริสุทธิ์ ในเมื่อเจตนาในการทำบุญไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานที่ได้มาก็ไม่บริสุทธิ์ ผู้ให้ก็ไม่บริสุทธิ์ ต่อให้ผู้รับบริสุทธิ์ อย่างไรทานนั้นก็มีผลน้อย ทำมากเท่าไรก็ได้บุญแค่เฟื้องแค่สลึง

แบบเดียวกับที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม หรือที่เรียกสั้น ๆ ตามภาษาชาวบ้านว่า หลวงปู่โต วัดระฆัง ไปรับโมทนาวิหารทานจากยายแฟง ซึ่งสร้างวัดถวายเอาไว้ในพระพุทธศาสนา จัดเป็นวิหารทานที่สูงกว่าสังฆทานเป็นร้อยเท่า

แต่เมื่อยายแฟงได้ถามถึงอานิสงส์ พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ วัดระฆัง ได้ตอบว่า "ทำเป็นล้านอานิสงส์ก็ได้แค่สลึงเฟื้อง เพราะว่าเจตนาไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ แล้วจะเอาบุญเต็มที่มาจากไหน ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2022 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา