ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-01-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,927 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเองมีประสบการณ์ตรงนี้ เพราะว่าพอเข้าป่าไปแล้วไม่มีที่พึ่ง สภาพจิตก็จะเกาะพระอย่างแนบแน่น ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในป่า กำลังใจทรงตัวเป็นสมาธิอัตโนมัติโดยไม่ต้องภาวนาเลย แต่ว่าทันทีทันใดที่หลุดพ้นจากป่าออกมา สมาธิก็คลายตัวทันทีเหมือนกัน เพราะเกิดความประมาทว่า เราเข้ามาอยู่ในเขตเมืองแล้ว ปลอดภัยแล้ว

ดังนั้น...ในเรื่องของการธุดงค์ ครูบาอาจารย์สมัยเก่า ๆ จึงมักจะดำเนินชีวิตอยู่ในป่าไปเลย ต่อให้อยู่ใกล้บ้านคน ก็ต้องใกล้ประมาณในการเดินประมาณ ๓ - ๔ ชั่วโมง หรือถ้าหากว่าอย่างในพระวินัยกำหนดเอาไว้ ก็คือต้องห่างจากบ้านประมาณชั่ว ๕๐๐ คันธนู เพราะว่าธนูในสมัยเก่านั้น ใช้ในการศึกการสงคราม สามารถยิงได้รุนแรงเท่าไร โอกาสที่จะทำลายข้าศึกได้ก็มีมากเท่านั้น ดังนั้น...คันธนูจึงต้องทั้งแข็งแรงแล้วก็ยาว ๕๐๐ ชั่วคันธนูนั้น อยู่ที่ประมาณ
ครึ่งกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย ในเมื่ออยู่ในลักษณะอย่างนั้น โอกาสที่จะใกล้บ้านที่สุดก็คือครึ่งกิโลเมตร

แต่ว่าพระที่ท่านเคร่งครัดจริง ๆ บางทีก็ต้องเดินเกือบครึ่งวันกว่าจะถึงบ้านคน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะว่าท่านฉันมื้อเดียว เมื่อบิณฑบาตได้อาหารมา ระยะเวลาก็เกือบเพล หรือไม่ก็เพลแล้ว หาที่เหมาะ ๆ ได้ก็ปูผ้าลง นั่งทำภัตกิจ ฉันอาหารอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็ค่อยกลับสู่ที่พักของตน บางท่านก็ ๔ วัน ๕ วันออกมาบิณฑบาตครั้งหนึ่ง แบบนั้นก็ไม่ใช่ฉันมื้อเดียวแล้ว หากแต่ว่าเป็น ๔ - ๕ วันฉันมื้อหนึ่ง หรือว่า ๑๐ วัน ๑๕ วัน ฉันมื้อหนึ่ง แล้วแต่ความเข้มข้น เข้มงวดของแต่ละคนที่มีต่อตัวเอง

แต่ว่าจากประสบการณ์ที่เคยธุดงค์อยู่หลายปีทำให้เห็นว่า สมัยนี้นั้นการธุดงค์นั้นมีผลน้อย เหตุที่มีผลน้อย เพราะว่าอันดับแรกเลย บุคคลสมัยนี้ที่ออกธุดงค์ น้อยคนที่ปฏิบัติเพื่อหวังความหลุดพ้น ส่วนใหญ่ที่กระผม/อาตมภาพไปเจอนั้น ก็คือ ท่านที่ออกธุดงค์สมัยนี้ มักจะเป็นพวกที่แปลกแยก เข้ากับสังคมไม่ได้ ไม่ยอมปรับตัวเอง ไม่ยอมแก้ไขนิสัยตัวเอง ก็เลยอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ได้ จึงต้องออกป่า ขนาดไปอยู่ป่าแล้ว เจอเพื่อนพระธุดงค์ด้วยกัน ก็ยังมีการแสดงออกซึ่งจริตนิสัยไม่น่ารัก ไม่น่าคบ และโดยเฉพาะหลายท่าน เมื่อไปแล้วพบที่เหมาะใจ ก็ไปสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นมา ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต่าง ๆ ต้องปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-01-2022 เมื่อ 07:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา