เพราะว่าผมเริ่มมาจากพุทโธ โดยพระป่าสายหลวงปู่มั่น ท่านสอนมาตั้งแต่เด็กครับ พออายุ ๑๖ ปี ก็เริ่มมาฝึกสายมโนมยิทธิแบบสายหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง แล้วหลังจากนั้นก็มาเรียนแบบการเคลื่อนไหวของหลวงพ่อเทียน เมื่อมาเรียน มจร. ก็เริ่มมาฝึกพองยุบ ทำไมผมถึงทำทุกอย่างละครับ ?
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เราจะรู้ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดี ต้องลงมือปฏิบัติครับ แล้วถ้าผมปฏิบัติก็คือผมทุ่มเทจริง ๆ เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว ถ้าไม่ดีจริง ผมจะได้ด่าได้เต็มปากเต็มคำครับว่า "กรรมฐานสายนี้ไม่ได้เรื่อง" แต่ถ้าหากว่าเขาดีจริง ๆ ผมต้องทำให้ดีให้ได้ นี่คือลักษณะของการปฏิบัติมาตั้งแต่เด็กผมก็เป็นแบบนี้
ดังนั้น...ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายรู้สึกว่าเราไม่คุ้นชินกับกรรมฐานสายพองยุบ ต้องลองพยายามดูหน่อยครับ ถึงเวลาแล้วเราก็ลองจับพองยุบดู ไม่ได้อะไรมากก็ไม่เป็นไรครับ ให้แค่พอตอบพระวิปัสสนาจารย์ได้ว่าเราได้ทำแล้ว
เวลาส่วนใหญ่เราก็ปฏิบัติตามความเคยชินของเรา เคยภาวนาพุทโธ เราก็พุทโธไปได้นี่ครับ ท่านไม่ได้มานั่งจี้ว่าตอนนี้ต้องพองยุบ เคยสัมมาอะระหัง เราก็สัมมาอะระหัง จับลม ๗ ฐานไป เคยพิจารณานามรูป ก็พิจารณาไป เคยจับอาการเคลื่อนไหวก็จับอาการเคลื่อนไหวไป
แต่ตอนเดินนี่จำเป็นครับ ตอนเดินเราต้องการความพร้อมเพรียง ถ้าหากว่าทำอยู่ด้วยกัน ยังดีนะครับว่านี่เป็นการปฏิบัติธรรมออนไลน์ ไม่อย่างนั้นแล้วถึงเวลาท่านเดิน ต้องอาศัยการเดินจงกรมสติปัฏฐาน ๖ ระยะเท่านั้น ไม่อย่างนั้นแล้วจะไม่พร้อมกันครับ
ดังนั้น...ในส่วนนี้ถ้าหากว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามา แล้วเรายังไม่ทันได้ลองเลย แต่ไปตำหนิว่าไม่ดี ยังไม่ได้ลองเลย แล้วก็ไปต่อต้าน เราลองนึกถึงวันที่เรามาเรียนสิครับ ท่านจบ ม.๖ มาแล้วเจอการเรียนแบบปริญญาตรีที่ไม่เหมือนกับ ม.๖ หรือว่าท่านที่เรียนมาน้อย แล้วก็ผ่านมาเรียน ป.บส. ปวน. หรือว่าเรียน ป.พศ. ป.สส. เพื่อที่จะเอาวุฒิ ม.๖ มาเรียนต่อปริญญาตรี ต่างกันมากนะครับ
ในเมื่อสิ่งนี้เป็นสิ่งที่แปลกแยกไปจากที่เราเคยศึกษาอยู่ ถ้าเราปฏิเสธ เราก็จะไม่ได้ความรู้..ใช่ไหมครับ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2021 เมื่อ 02:15
|