กราบขอโอกาสพระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวาราวดี ท่านอาจารย์พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวาราวดี คณาจารย์ฝ่ายบรรพชิต ตลอดจนกระทั่งนิสิตฝ่ายบรรพชิตทุกรูป และเจริญพรคณาจารย์ ผู้บริหารฝ่ายคฤหัสถ์ ตลอดจนกระทั่งนิสิตฝ่ายคฤหัสถ์ทุกท่าน
กระผม/อาตมภาพ พระครูวิลาศกาญจนธรรม วันนี้ได้รับนิมนต์มาบรรยายในงานปฏิบัติธรรม ซึ่งจะว่าไปแล้ว บางทีก็อยู่ในลักษณะที่ว่าเห็นใจพวกท่านทั้งหลาย เพราะว่าในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้ากำลังใจของเรายังไม่ได้ รับรองว่าไปกันไม่ได้จริง ๆ ครับ
เนื่องจากว่าการสร้างบุญสร้างบารมีของเรามานั้น ถ้าว่ากันโดยทั่ว ๆ ไป ก็คือ มีอยู่ ๓ ระดับ เรียกว่าสามัญบารมี กำลังใจขั้นต้น ประเภทนี้ดีที่สุดแค่ให้ทานได้ครับ รักษาศีลไม่เป็น ภาวนาไม่เป็น
เราลองนึกดูว่า บางวัดเวลามีงานบุญต้องจ้างโฆษกมาพูดชักชวนให้ญาติโยมทำบุญกันเป็นวัน ค่าตัวแพงด้วยนะครับ ลักษณะของญาติโยมที่ทำบุญ ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตดูก็จะเห็น บางคนนี่ประเภทที่เรียกว่าชวนเท่าไรก็เหมือนกับหูทวนลม ไม่มีกำลังใจที่จะสละออกเลย นั่นคือสามัญบารมีขั้นหยาบ
ถ้าหากว่าสามัญบารมีขั้นกลาง ชวนแล้วชวนอีก น้ำลายแห้งไป ๓ โอ่ง..! สามารถควักเงินออกมาทำบุญได้ แต่เสียดายใจแทบขาด จนกระทั่งต้องไปสามัญบารมีต้นระดับสุดท้าย แบบละเอียด ถึงจะสามารถให้ทานได้ แต่ถ้าบอกว่ารักษาศีลนี่ รู้สึกเหมือนอย่างกับแบกช้างทั้งตัว ไม่ไหวอย่างแน่นอน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2021 เมื่อ 03:24
|